Apple ขึ้นชื่อในด้านการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงทั้งใช้งานได้จริงและมีสไตล์ iPhone ก็ไม่มีข้อยกเว้น เนื่องจากมีการออกแบบที่ทันสมัยและประสิทธิภาพอันทรงพลัง อย่างไรก็ตาม เพื่อปกป้องอุปกรณ์ราคาแพงนี้จากรอยขีดข่วนและการตกหล่น ผู้ใช้จำนวนมากจึงเลือกใช้เคสที่ขายโดยตรงจาก Apple ในบรรดาตัวเลือกที่มี เคสซิลิโคนและเคสใสเป็นสองตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่อันไหนดีกว่าสำหรับ iPhone ของคุณ? ต่อไปนี้ จะเปรียบเทียบเคสทั้งสองแบบนี้ โดยพิจารณาจากการออกแบบ การสร้าง การป้องกัน และราคา
ออกแบบ
การออกแบบเคสเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เนื่องจากจะส่งผลต่อตัวเครื่องของ iPhone โดยตรง เคสซิลิโคนของ Apple มีรูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบลื่นและนุ่มนวลทำให้ถือได้สบาย นอกจากนี้ยังมีสีหลากหลายตั้งแต่สีสว่างสดใสไปจนถึงสีเข้มและละเอียดอ่อน คุณสามารถเลือกสีที่เข้ากับบุคลิกและสไตล์ของคุณได้ เคสซิลิโคนยังคลุมขอบด้านล่างของ iPhone เหลือเพียงตะแกรงลำโพงและพอร์ตชาร์จเท่านั้นที่โผล่ออกมา
ในทางกลับกัน เคสแบบใสของ Apple มีรูปลักษณ์ภายนอกที่โปร่งใสและแข็ง ซึ่งช่วยให้คุณอวดตัวเครื่องดั้งเดิมของ iPhone ของคุณได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่บางและเบาที่ไม่เพิ่มความเทอะทะให้กับอุปกรณ์ของคุณมากนัก อย่างไรก็ตาม เคสใสมีข้อเสียบางประการในแง่ของการออกแบบ ประการแรก มีแม่เหล็กที่มองเห็นได้ที่ด้านหลังซึ่งมีไว้เพื่อให้สำหรับการชาร์จกับอุปกรณ์เสริม MagSafe แม่เหล็กเหล่านี้ดูไม่น่าดูและทำลายความสวยงามของ iPhone ประการที่สอง เคสใสเปิดขอบด้านล่างส่วนใหญ่ของ iPhone ออกไป เผยให้เห็นความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อย่างที่สาม เคสใสมีปุ่มแข็งกดยาก
โครงสร้างของตัวเคส
คุณภาพการประกอบของเคสเป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา เนื่องจากส่งผลต่อความทนทานและอายุการใช้งานของ iPhone ของคุณ เคสซิลิโคนมีโครงสร้างที่แข็งแรงและยืดหยุ่น ซึ่งสามารถทนทานต่อการสึกหรอในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีชั้นไมโครไฟเบอร์แบบนุ่มด้านในที่ป้องกันรอยขีดข่วนกรอบสแตนเลสและกระจกด้านหลังของ iPhone เคสซิลิโคนยังใช้งานร่วมกับที่ชาร์จและอุปกรณ์เสริม MagSafe ได้ด้วย เนื่องจากมีแม่เหล็กฝังอยู่
เคสแบบใสมีโครงสร้างโพลีคาร์บอเนตที่มีแนวโน้มที่จะแตกร้าวและเป็นสีเหลืองเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ยังมีขอบแข็งที่อาจทำให้ iPhone ของคุณเป็นรอยเมื่อใช้งานไปนาน ๆ หรือขณะถอดออก เคสแบบใสยังใช้งานได้กับที่ชาร์จและอุปกรณ์เสริม MagSafe อีกด้วย แต่แม่เหล็กจะเปิดให้เห็นได้ชัดอยู่ด้านหลัง
การป้องกัน
ระดับการป้องกันตัวเครื่องของเคสเป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา เนื่องจากส่งผลต่อความปลอดภัยของ iPhone เคสซิลิโคนของ Apple ให้การปกป้องในระดับสูงสำหรับ iPhone เนื่องจากเคสนี้ครอบคลุมทุกด้านและทุกมุมของอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีขอบยกขึ้นรอบหน้าจอและโมดูลกล้องที่ช่วยปกป้องกล้องจากรอยขีดข่วนและการกระแทก เคสซิลิโคนสามารถดูดซับแรงกระแทกและการตกกระแทกได้โดยไม่ทำให้ iPhone ของคุณเสียหาย
เคสใสของ Apple ให้การปกป้อง iPhone ของคุณในระดับปานกลาง เนื่องจากครอบคลุมเพียงบางด้านและมุมของอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีขอบแบนรอบหน้าจอและโมดูลกล้องที่ไม่ได้ป้องกันรอยขีดข่วนและการกระแทกมากนัก เคสใสสามารถต้านทานรอยขีดข่วนและการตกได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ปกป้อง iPhone เทียบเท่ากับเคสซิลิโคน
ราคา
ราคาของเคสเป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา เนื่องจากจะส่งผลต่องบประมาณและความคุ้มค่าในการใช้งาน เคสของ Apple ทั้งสองแบบมีราคาพอ ๆ กันประมาณ 1,990 บาท ซึ่งถือว่าแพงสำหรับเคสโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพและคุณลักษณะของแต่ละกรณี คุณอาจได้รับความพึงพอใจมากกว่าเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป
เคสซิลิโคนให้ความคุ้มค่าคุ้มในด้านราคามากกว่าเคสแบบใส เนื่องจากมีการออกแบบ โครงสร้าง และการปกป้องที่ดีกว่าสำหรับ iPhone ของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณมีตัวเลือกสีให้เลือกมากขึ้น เคสซิลิโคนกับมูลค่าเกือบสองพันบาท อาจคุ้มค่าก็ได้ หากคุณต้องการเคสที่เชื่อถือได้และมีสไตล์สำหรับ iPhone ของคุณสักอัน
เคสใสให้ความคุ้มค่าน้อยกว่าเคสซิลิโคน เนื่องจากมีดีไซน์ โครงสร้าง และการปกป้อง iPhone ของคุณด้อยกว่า นอกจากนี้ยังไม่มีตัวเลือกสีให้คุณเลือกอีกด้วย เคสใสไม่คุ้มที่จะจ่ายเงินเกือบสองพันบาท เพื่อจะได้เคสที่ทนทานและน่าดึงดูดสำหรับ iPhone ของคุณสักอันหนึ่ง
โดยสรุป จากการเปรียบเทียบเคส iPhone ทั้งสองแบบในกรณีนี้ ก็แนะนำว่า ให้ซื้อเคส Apple Silicone มากกว่าเคส Apple แบบใส เคสซิลิโคนมีดีไซน์ โครงสร้าง และการป้องกันที่ดีกว่าเคสแบบใส รวมถึงมีตัวเลือกสีให้เลือกมากกว่า เคสซิลิโคนยังคุ้มค่าเงินมากกว่าเคสใส เนื่องจากมีคุณภาพและคุณสมบัติมากกว่าในราคาเดียวกัน ดังนั้นหากคุณต้องการเคส iPhone จากแบรนด์ Apple โดยตรง ที่ดีกว่าในทุกๆ ด้าน ให้เลือกเคส Apple Silicone แทนเคสแบบใส
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น