ไหน ๆ เราก็ต้องจ่ายเงินไปเป็นหมื่นบาทเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของสมาร์ทวอทช์เจ๋ง ๆ อย่าง Apple Watch แล้ว ทีนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เราก็ต้องลงทุนเพิ่มอีกหน่อยเพื่อปกป้องมันไม่ให้เป็นอะไรไประหว่างการใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดกันเต็ม ๆ เรื่องฟิล์มป้องกันหน้าจอของ Apple Watch ที่คุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปทางออนไลน์ว่า มันมีเหตุผลอะไรที่ต้องติด ติดกับไม่ติดดีกว่ากันยังไง เราอาจจะมาพูดถึงเรื่องข้อมูลบางอย่างที่สำคัญที่ควรรู้ในการเลือกซื้อ ฟิล์มป้องกัน Apple Watch ด้วย ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้โปรดอ่านจนจบ เรื่องพวกนี้อาจเป็นประโยชน์กับคุณ และอาจสามารถตอบคำถามคาใจว่า ตกลงแล้ว Apple Watch ต้องใส่เคสไหม
จะเลือกซื้อฟิล์มกันรอยสำหรับ Apple Watch ยังไง
ตอนนี้ในท้องตลาดโดยเฉพาะทางออนไล์ เราจะเห็นฟิล์มป้องกันหน้าปัด Apple Watch ให้เลือกซื้อมากมาย คำถามคือ แล้วเราจะหาฟิล์มรุ่นไหนยี่ห้อไหนที่เหมาะกับ Apple Watch ของเราได้ยังไงล่ะ? เอาล่ะ ไม่ต้องกังวล ต่อไปจากนี้เราจะมาพูดเรื่องนี้กันให้ละเอียดลึกลงไปอีก โดยจะครอบคลุมถึงคุณสมบัติโดดเด่นของพวกฟิล์มกันรอยของสมาร์ทวอทช์พวกนี้ด้วย และราคาของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ แม้กระทั่งวิธีการติดตั้งฟิล์มกันรอยลงบนตัวเครื่องอุปกรณ์ด้วย

ฟิล์มกระจกกันรอย Gorilla TG-Full แบบเต็มจอ สำหรับ Apple Watch ราคาประมาณ 290 บาท - มีความสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้สูง (highly anti-scratch) สัมผัสหน้าจอลื่น ทัชง่าย ไม่สะดุด (Smooth Touch) มีความคมชัดสูง (high definition) เคลือบสารช่วยลดการเกิดคราบมัน ช่วยลดรอยนิ้วมือ และสารช่วยป้องกันการเกิดแบคทีเรีย ลดการสะท้อนของแสง
ฟิล์มกันรอย จำเป็นแค่ไหน?
สำหรับใครที่ใช้ Apple Watch มานานแล้ว พอฟังดูอาจรู้สึกว่าเป็นคำถามที่ไม่เห็นจะสำคัญอะไรเลย แต่อย่าลืมว่าสำหรับมือใหม่ ผู้ที่เริ่มต้นใช้ Apple Watch ช่วงแรก ส่วนใหญ่หวงอุปกรณ์ที่ซื้อมาแพง ๆ แทบทั้งนั้น ดังนั้น การจะเอาฟิล์มอะไรมาแปะ นี่ก็ต้องเลือกดี ๆ เลือกไม่ดี ทำให้นาฬิกาสุดหวงเสียหายนี่ดูไม่จืดเลย รวมถึงถ้าเลือกฟิล์มกันรอยหน้าจอไม่ดี ติดไปแล้ว อาจส่งผลกับการใช้งานด้วย อย่างเช่น อาจทำให้การทัชหน้าจอนาฬิกา ไม่ตอบสนองดีเหมือนเคย ใช้งานไป ยิ่งรำคาญเข้าไปใหญ่ เพราะแม้ว่า คุณจะสามารถป้องกันหน้าจอ Screen ของ Apple Watch ได้ แต่ถ้าปัดไปปัดมาไม่ไหลลื่นเหมือนเคย อันนี้ก็ไม่เวิร์คเลย อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า Apple Watch นั้นราคาแพง อาจพูดได้ว่าเป็นของหรูหรา ดังนั้น ถ้าคุณต้องการรักษาสมาร์ทวอทช์ที่อุตสาห์จ่ายเงินมาเป็นหมื่นเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของ ให้ไม่เสื่อมค่าลงด้วยรอยขนแมวเต็มจอหน้าปัด หรือแม้กระทั้งทำตกพื่นจนตัวเครื่องเป็นรอยหรือแตก คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงทุนซื้อฟิล์มกันรอยดี ๆ ที่เหมาะกับรุ่น Apple Watch ของคุณ
วัสดุของฟิล์มกันรอย ที่ควรรู้ก่อนซื้อ
สิ่งแรกที่ควรพิจารณาเมื่อต้องการจะเลือกซื้อก็คือ ฟิล์มเหล่านั้นทำมาจากวัสดุอะไร เรื่องนี้สำคัญ ซึ่งอาจจะสามารถแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ฟิล์ม PE หรือ Polyethylene ฟิล์มกันรอยประเภทนี้มีจุดเด่นที่ปกป้องหน้าปัดของสมาร์ทวอทช์ได้ดี แถมยังราคาถูกอีกด้วย เป็นฟิล์มที่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ Apple Watch ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ฟิล์ม PE สามารถป้องกันรอยขีดข่วนระดับปานกลางเท่านั้น
- ฟิล์มกระจกนิรภัย หรือ Tempered Glass หลายคนก็เรียกสั้น ๆ ว่า ฟิล์มกระจก นี่ถือเป็นฟิล์มกันรอยที่น่าจะเรียกได้ว่ายอดนิยมมากที่สุด แน่นอนไม่ใช่เฉพาะสำหรับโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียว รวมถึงสมาร์ทวอทช์ด้วย ฟิล์มกระจกนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่ ทนทานสูงมาก และยังมีความใส มองทะลุผ่านหน้าจอหน้าปัดได้อย่างชัดเจน
- ฟิล์ม Ultra Glass หรือฟิล์มกระจกแบบพิเศษ นี่เป็นฟิล์มกันรอยที่ป้องกันจอหน้าปัดนาฬิกาได้ดีที่สุดเท่าที่หาตอนนี้เลย เพราะมีความแข็งแรงกว่าฟิล์มกระจกนิรภัยเกือบ 3 เท่า นอกจากนั้นฟิล์มแบบนี้ยังมีความเพรียวบางเป็นพิเศษ ทำให้เราสัมผัสจอหน้าปัดได้อย่างไหลลื่น
เลือกฟิล์มกันรอยให้เหมาะกับรุ่น Apple Watch
บางครั้งการเลือกซื้อของก็จะยุ่งยากนิดนึง เนื่องจาก Apple Watch นั้นมีหลายรุ่น ตั้งแต่ Series 1 ไปจน 8 แล้ว Series 9 หรือรุ่นใหม่ก็ออกมาเพิ่มทุกปี ดังนั้น เวลาจะเลือกฟิล์มกันรอย จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องรู้ว่าของตัวเองคือรุ่นอะไร เพราะใช้ไปสักพักก็จะลืมเชื่อสิ อันนี้ก็เพื่อให้มีขนาดพอดีกับตัวเรือนนาฬิกา ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว เราสามารถหาข้อมูลลึก ๆ เกี่ยวกับขนาดของ Apple Watch แต่ละรุ่นได้จากคู่มือหรือทางเว็บไซต์ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้ายังคงมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเลือกฟิล์มกันรอย อาจจะลองถามคนขายดูหรือใช้กับ Apple Watch รุ่นไหนได้บ้าง และแม้กระทั่งถามพนักงานในช้อปที่เราซื้ออุปกรณ์มาก็ได้
คุณสมบัติพิเศษของฟิล์มกันรอย
ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติพิเศษที่เด่น ๆ บางประการที่คุณควรจะมองหาเวลาจะซื้อฟิล์มกันรอยสำหรับใช้กับ Apple Watch
- ซ่อมตัวเองได้ ฟิล์มกันรอยบางชนิดจะมีความสามารถในการขจัดฟอกอากาศและลบรอยขีดข่วนได้อัตโนมัติด้วยตัวมันเอง ฟิล์มแบบนี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสมาร์ทวอทช์ของเรา
- ตอบสนองต่อการ Touch เป็นพิเศษ ปัญหาเวลาเราติดฟิล์มลงบนหน้าปัด Apple Watch ที่หลายคนกลัวก็คือ การแตะและการปัดเพื่อสั่งงานอุปกรณ์มันจะไม่เป็นเหมือนเดิม ปัดแล้วไปไม่ไปบ้างอะไรอย่างนี้ แต่ว่ามีฟิล์มกันรอยหลายยี่ห้อ การันตีว่าตอบสนองต่อการ Touch ดีเป็นพิเศษ ไม่ค่อยต่างจากไม่ติดฟิล์มเลย ดังนั้น ตอนซื้อฟิล์มกันรอย ก็อย่างลืมอ่านดูว่า ผู้ผลิตเค้าการรันตีในเรื่องนี้หรือไม่ รวมถึงลองอ่านรีวิวของลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้านั้นดูว่า มีปัญหากับการ Touch สั่งงานหน้าปัดนาฬิกาหรือไม่
- ปกป้องตัวเรือนนาฬิกามากที่สุด ฟิล์มกันรอยยี่ห้อต่าง ๆ มากับความหนาและระดับการครอบคลุมตัวเรือนที่แตกต่างกันไป บางยี่ห้อก็จะคลุมเฉพาะหน้าปัด แต่ยี่ห้ออื่นอาจคลุมไปถึงด้านข้างของตัวเรือนด้วย ฟิล์มแบบที่เป็นกระจกแข็งมักจะหุ้มทั้งหมดเพื่อปกป้องทั้งตัวเรือน ดังนั้น ก่อนซื้อ ตัดสินใจก่อนว่าจะให้ฟิล์มคลุมไปถึงระดับไหน
- ประกันเปลี่ยนให้ใหม่ ผู้หลิตหลายรายโดยเฉพาะยี่ห้อดัง ๆ มักจะเสนอการประกันตัวฟิล์มด้วย หรือแม้กระทั่งรับประกันแบบ Lifetime หรือตลอดชีพกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้ออย่างเรา แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนซื้อฟิล์มกันรอยทุกครั้ง อย่าลืมอ่านรีวิวของลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้าว่าประสบการณ์การใช้งานกับ Apple Watch ของเค้า ดีไม่ดียังไง
ฟิล์มกันรอย Apple Watch ราคาเท่าไร
ถ้าไปสำรวจท้องตลาด จะพบว่ามีหลายระดับราคามาก ฟิล์มยี่ห้อดี ๆ ดัง ๆ อาจจะราคาไปจนถึง 1,000 กว่าบาทก็มี แต่หากยี่ห้อ No name จากจีน 150 กว่าบาทก็มี ซึ่งแน่นอนคุณภาพการปกป้องตัวเรือนสมาร์ทวอทช์ ก็แปลผันไปตามราคา ฟิล์มราคาสูงก็ใช้วัสดุในการผลิตที่ดี ผู้ผลิตก็น่าเชื่อถือกว่า ซึ่งไหน ๆ ก็ซื้อ Apple Watch มาตั้งหลายหมื่นแล้ว ก็น่าจะหาฟิล์มป้องกันดี ๆ ไปเลยดีกว่าจริงไหม
ติดฟิล์มกันรอย Apple Watch ยากไหม
เอาจริง ๆ ขั้นตอนการติดฟิล์มนั้น ถือว่าค่อนข้างง่าย ไม่มีวิธีการอะไรพิเศษ และไม่ได้ต้องการให้ช่างมาช่วยแต่อย่างไร เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เริ่มจากการเปิดกล่องเลย ภายในก็จะมากับอะไรหลายอย่าง เช่น ฟิล์มกันรอย ผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียก ตัวดูดซับฝุ่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด คู่มือสอนการติดตั้ง เป็นต้น ขั้นตอนต่อไป ก็ให้เราเตรียม Apple Watch ให้พร้อมได้เลย ปิดการทำงานของเครื่องให้เรียบร้อย และถอดสายนาฬิกาออก แล้วก็เริ่มทำความสะอาดตัวเรือนก่อนเลย โดยการใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด ถูพื้นผิว Apple Watch อย่างระมัดระวัง ทุกซอกทุกมุมทั้งตัวเครื่องแล้วก็ตรงขอบมุนต่าง ๆ เราสามารถใช้ตัวดูดซับฝุ่นที่เค้าให้มาด้วยเพื่อดูฝุ่นสกปรกที่ติดบนตัวเรือนได้ด้วย รวมถึงการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดเช็ดอีกครั้ง พยายามวางตัดเรือนนาฬิกาไว้กับพื้นผิวเรียบอย่างระมัดระวัง โดยจับจากด้านล่างของตัวเรือน แล้วอย่าจับบริเวณหน้าปัดอีก แกะฟิล์มกันรอยออกจากแพ็กเกจ ค่อยๆ แปะฟิล์มลงเข้าหาหน้าจอนาฬิกาอย่างระมัดระวัง และตรวจดูให้แน่ใจว่าแปะตรงตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง เมื่อติดฟิล์มเสร็จแล้ว ถ้ามีฟองอากาศอยู่ก็ต้องรีดให้ออกไป อย่างปล่อยทิ้งไว้ โดยค่อย ๆ รีดฟองอากาศจากล่างขึ้นบน ตรวจสอบความเรียบร้อย เท่านี้ การติดตั้งฟิล์มกันรอยให้กับ Apple Watch ของเราก็เรียบร้อย ใส่สายนาฬิกากลับเข้าที่ เปิดเครื่องใช้งานตามปกติได้เลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น