โทรศัพท์ Xiaomi ดีไหม ข้อดี ข้อเสีย เป็นยังไง

ทุกอย่างไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะหมด มีจุดเด่นแล้วก็ต้องจุดด้อยเสมอ โทรศัพท์เสี่ยวมี่ก็เป็นอย่างนั้นด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังไงด้วยความนิยมมาก ๆ ของแบรนด์นี้ทั่วโลก นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าข้อดีอันโดยเด่นนั้นสามารถกลบข้อเสียที่มีอยู่บ้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในบทความนี้ก็จะพูดกันถึงเรื่องดังกล่าวนี้ เป็นการรวบรวมความคิดเห็นจากผู้ใช้ที่ได้พบเจอกันจริง ๆ เป็นข้อสรุปที่คุณสามารถเอาไปใช้ได้ ถ้าคุณกำลังเล็ง ๆ Xiaomi อยู่และยังตัดสินใจอยู่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เครื่องถัดไปของคุณดีหรือไม่ ลองอ่านดูเพื่อประกอบการตัดสินใจ

การตลาดแบบปากต่อปาก นอกจาก Apple แล้ว ก็มี Xiaomi นี่แหละที่ทำได้

ก่อนที่เราไปดูข้อดีและข้อเสียกัน อยากจะบอกตรงนี้ก่อนว่าโทรศัพท์เสี่ยวมี่นั้นมีกลุ่มแฟนคลับจำนวนมากอยู่ทั่วโลก แต่มีการตั้งกลุ่มเพื่อรวบรวมแฟน ๆ เข้าไว้ด้วยในในประเทศต่าง ๆ ในไทยก็มี อย่างในกลุ่มเฟสบุ๊คของผู้ใช้โทรศัพท์เสี่ยวมี่ ก็เพื่อพูดคุย อัปเดทข่าวสารเกี่ยวกันรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมา ปรึกษาปัญหาที่เกิดจากการใช้งาน เป็นต้น ด้วยฐานแฟน ๆ จำนวนมากนี่เองทำให้ Xiaomi ที่แทบจะไม่ได้ทุ่มเม็ดเงินโฆษณาเพื่อโปรโมทโทรศัพท์ของตัวเองเลย เพียงแต่มีข่าวว่าจะออกรุ่นใหม่เท่านั้น ก็มีการแชร์ข่าวออกไปอย่างมากมาย โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย สเปคและเทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ ของโทรศัพท์รุ่นใหม่ของ Xiaomi ก็ไปถึงผู้คนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นการตลาดแบบปากต่อปากที่เราจะไม่ได้เห็นจากแบรนด์มือถือแบรนด์ใดนอกจาก Apple ที่ทำแบบนี้ได้

จุดเด่นที่สุดของโทรศัพท์ Xiaomi คือ สเปคแรง แต่ราคาไม่แพง

เชื่อว่าสิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้ได้มากที่สุดของแบรนด์นี้คือ ราคา ซึ่งก็ไม่ได้แปลกใจกันอยู่แล้ว เพราะใคร ๆ ก็อย่างใช้ของถูกกันทั้งนั้น Xiaomi นั้นขายโทรศัพท์มือถือที่มีสเปคสูงหรือฮาร์ดแวร์มีประสิทธิภาพดีมากในราคาที่ถูกกว่า เรียกว่าชนะทุกแบรนด์คู่แข่ง ยังไม่มีมือถือจากยี่ห้อไหนที่ทำอย่างนี้ได้ นี่เป็นปรัชญาที่ทำให้เสี่ยวมี่ยื่นหนึ่งในตลาดที่แข่งขันกันสูงที่สุดได้อย่างรวดเร็ว

มากับจอแสดงผลที่ดี

หลายคนบอกว่าโทรศัพท์ Xiaomi หลายรุ่นจอแสดงผลไม่ดีเท่า Samsung ... แต่อันนี้ไม่จริงซะทีเดียว เพราะถ้าเราเอาราคาเป็นตัวตั้ง กับราคาเท่านี้ ถือว่าโทรศัพท์ Xiaomi ให้คุณภาพหน้าจอมาดีมาก ๆ แล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับโทรศัพท์ Samsung หรือแม้แต่ iPhone ในราคาเดียวกัน

ได้อัปเดทระบบปฏิบัติการบ่อย

ยกเว้นโทรศัพท์จากค่าย Apple ก็จะพบว่า Xiaomi เป็นผู้ผลิตที่ให้ผู้ใช้ได้อัปเดทระบบปฏิบัติการบ่อยที่สุดรายหนึ่งเลย แม้บางเครื่องจะใช้งามผ่านมาแล้วมากกว่า 24 เดือนก็ยังได้อัปเดท OS กัน ถ้าไปเปรียบเทียบกับแบรนด์มือถือบางราย แม้ว่าเป็นรุ่นเรือธง หลังผ่านไป 18 เดือน อาจจะไม่ได้อัปเดท OS อีกแล้วก็ได้

แบตเตอรี่โทรศัพท์ Xiaomi ใช้งานได้ยาวนาน

ในกลุ่มชุมชนผู้ใช้งาน ยอมรับเป็นการทั่วไปว่ามือถือ Xiaomi ใช้งานไปได้หลายปีโดยไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกกวนใจสักเท่าไร โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพและใช้งานได้ยาวนาน คำว่ายาวนานนี้ไม่ได้หมายความว่าแบตอึดนะ แต่หมายถึง Battery Life หรืออายุการใช้งานที่ยาวนาน คือเสื่อมช้านั่นเอง ส่วนเรื่องว่าแบตเตอรี่อึดหรือไม่นั้น อันนี้ขึ้นกับรุ่นแล้ว เพราะแต่ละรุ่นแบตก็ความจุมากน้อยต่างกัน คนละเรื่องกับหมดสภาพช้าหมดสภาพเร็ว อย่างไรก็ตาม ก็พบว่า แบตของโทรศัพท์ Xiaomi มีอาการเสื่อมเมื่อใช้งานไปหลายปี อาจจะรู้สึกว่าใช้เวลาในการชาร์จที่ยาวนานขึ้น รวมถึงเก็บไฟได้ไม่นาน แป๊ปเดียวแบตก็หมด ซึ่งอันนี้ก็ไม่ได้เป็นผิดปกติอะไร เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปกับแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ทุกยี่ห้อ ทั้งซัมซุงและไอโฟนก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากทุกยี่ห้อก็ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่เดียวกันหมด

ข้อเสียของโทรศัพท์ Xiaomi

ขอพูดตรงนี้ก่อนว่า พออ่านข้อเสียแล้ว ก็อย่างไปซีเรียสอะไรมาก เพราะมือถือทุกแบรนด์นั้น ก็ย่อมมีข้อเสียเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เช่น iPhone ข้อเสียก็เป็นเรื่องของราคาแพง คนที่มีระดับรายได้ไม่สูงนัก ก็ยากจะเอื่อมถึง อะไรอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งตรงข้ามกับโทรศัพท์ Xiaomi ที่สเปคดีราคาถูกกว่า แต่ก็มีเรื่องที่อาจจะไม่ถูกใจผู้ใช้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ก็รับฟังไว้ และก็หวังว่าในอนาคตผู้ผลิตจะปรับปรุงแก้ไขต่อไป

มีโฆษณาใน Native Apps

โทรศัพท์ Xiaomi มีการแสดงแบนเนอร์โฆษณาในแอปที่ติดมากับเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น File Manager, แอปเคลียร์ไฟล์ขยะ รวมถึงแอป Utility ต่าง ๆ ก็จะมีโฆษณาแสดงขณะที่เราใช้งานแอปเหล่านั้น ว่ากันว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ Xiaomi ขายมือถือในราคากว่าคู่แข่งได้เพราะได้รับเงินสนับสนุนจากผู้โฆษณา Third-party ปัจจุบันแม้ว่าผู้ใช้จะสามารถเข้าไปยังเมนู Settings เพื่อปิดโฆษณาที่แสดงตามแอป Native เหล่านี้ได้แล้ว แต่เสี่ยวมี่ก็ยังคงเก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อนำไปทำประโยชน์ในด้านการตลาดอยู่ดี ซึ่งจะพูดในหัวข้อถัดไป

เก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อการตลาด (ยังเป็นอยู่รึเปล่าไม่แน่ใจ)

แม้ว่า Xiaomi จะขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ก็จริง แต่จริง ๆ แล้วเค้าเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ต่างหาก ดังนั้น ข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้เครื่องจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจของเค้า ในช่วงก่อนหน้านี้ (ปัจจุบันไม่รู้ว่ายังเป็นอย่างนี้อยู่รึเปล่า) ก็ว่ากันว่ากลยุทธทางธุรกิจของเค้าก็คือ ขายโทรศัพท์ราคาถูกสเปคดี ๆ เพื่อให้มีผู้ใช้งานจำนวนมากเป็นหลาย ๆ ล้าน Users ใน Ecosystem ของ Xiaomi ในเวลาอันสั้น สิ่งที่เค้าได้ก็คือข้อมูลผู้ใช้งานจำนวนมากเป็นล้าน ๆ ตามมา ซึ่งสามารถเอาไปทำกำไรด้านการตลาดสำหรับบริษัท Third Party ได้ อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งคิดมาต่อว่าเสี่ยวมี่เค้า เพราะข้อมูลผู้ใช้ที่เค้าเอาไปก็เป็นข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตน แค่เอาไปวิเคราะห์เพื่อจะได้ออกสินค้าหรือบริการให้ตรงความต้องการของผู้บริโภค จะได้ขายของดี ๆ เท่านั้นเอง และนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง Google, Youtube, Facebook, Tiktok เป็นต้น เหล่านี้ก็เก็บข้อมูลการใช้งานของพวกเราแล้วเอาไปหาเงินด้วยวิธีแบบเดียวกันโดยที่ไม่ได้แชร์ผลประโยชน์อะไรให้กับเราเลย ในทางตรงกันข้าม Xiaomi เก็บข้อมูลของเราแต่เค้ายังแชร์ผลประโยชน์ให้กับเราด้วยการขายโทรศัพท์ในราคาที่ถูกลง ทั้งนี้ขอย้ำอีกที ที่เล่าในหัวข้อนี้เป็นอะไรที่เค้าเล่ามาก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปัจจุบัน เค้ายังใช้กลยุทธทางธุรกิจแบบนี้อยู่รึเปล่า

โทรศัพท์ Xiaomi มีดีไซน์ไปเหมือนยี่ห้ออื่น (เป็นอดีตไปแล้ว)

เราจะพบว่ารูปร่างหน้าตาหรือดีไซน์ของมือถือเสี่ยวมี่หลายรุ่นไม่ได้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางคนก็ไปว่าว่าเป็นการลอกดีไซน์ของ iPhone อะไรอย่างนี้ เอาจริง ๆ หน้าตาโทรศัพท์ก็คล้ายจริง ๆ นั่นแหละ ในช่วงแรก ถึงขนาดว่า ซอฟท์แวร์ UI ของ Xiaomi ดันไปคล้ายหรือบางคนบอกว่าเหมือนกับระบบปฏิบัติการ iOS ของ Apple เลย บางคนจึงเรียกโทรศัพท์ของ Xiaomi ว่าเป็น iPhone แห่งประเทศจีนเลย อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ย่อมมีการพัฒนา เพราะหลัง ๆ มานี้ ถ้าใครติดตามอยู่ก็จะพบว่า โทรศัพท์รุ่นใหม่ของ Xiaomi มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตัวเองแล้ว มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร และ UI ก็พัฒนาเป็นของตัวเอง ดีขึ้นกว่าเดิมมาก