iPhone ปลอดภัยกว่าโทรศัพท์ Android อย่างไร จะถูกแฮกได้ไหม

ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในชีวิตของเราก็ว่าได้ แต่การใช้งานหลายอย่างก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของเราด้วย เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจำนวนมากจัดเก็บไว้ในโทรศัพท์ของเรา เช่น รูปภาพ ข้อความ รายชื่อติดต่อ รหัสผ่าน และข้อมูลทางการเงิน เราจึงต้องระมัดระวังเกี่ยวกับวิธีที่เราปกป้องข้อมูลสำคัญเหล่านั้นจากแฮกเกอร์ มัลแวร์ และภัยคุกคามอื่นๆ โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านที่แอพดูดเงินระบาดหนัก คนไทยจำนวนมากถูกดูดเงินไป สร้างความเสียหายมหาศาล เรายิ่งต้องให้ความสำคัญปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์มือถือมากเข้าไปอีก

หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือถามกันและถูกให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ iPhone ปลอดภัยกว่าโทรศัพท์ Android หรือไม่ คำตอบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากทั้งสองแพลตฟอร์มมีจุดแข็งและจุดอ่อนในเรื่องความปลอดภัยเป็นของตัวเอง ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบลึกลงไปถึงคุณสมบัติความปลอดภัยของ iPhone และโทรศัพท์ Android และจะสอดแทรกให้คำแนะนำบางประการเกี่ยวกับวิธีการรักษาโทรศัพท์มือถือของคุณให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ระบบความปลอดภัยของ iPhone

คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ถึงการเน้นเรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของระบบของ Apple นั้นทำให้ iPhone ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่ามีความปลอดภัยที่ดีมากกว่าโทรศัพท์ Android อาจจะเนื่องจากเหตุผลหลักดังต่อไปนี้:

  • iOS เป็นระบบปิด โดย Apple นั้นได้ควบคุมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ iPhone และไม่อนุญาตให้มีการดัดแปลงหรือปรับแต่งโดยบุคคลที่สาม ซึ่งหมายความว่า iOS มีความสอดคล้องและเสถียรมากขึ้น และมีความเสี่ยงต่อข้อผิดพลาด ข้อบกพร่อง หรือโค้ดที่เป็นอันตรายน้อยลง นอกจากนี้ Apple ยังตรวจสอบและอนุมัติทุกแอพที่มีอยู่ใน App Store และสามารถลบแอพใดก็ตามที่ละเมิดแนวปฏิบัติหรือก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
  • iOS ได้รับการอัปเดตเป็นประจำ ปกติแล้ว Apple ปล่อยการอัปเดตเป็นประจำสำหรับ iOS ซึ่งรวมถึงแพตช์ด้านความปลอดภัยและการแก้ไขสำหรับช่องโหว่ที่ตรวจพบในเวลาอันรวดเร็ซ การอัพเดตเหล่านี้มีให้สำหรับ iPhone ทุกรุ่นที่ใช้งานร่วมกันได้ และผู้ใช้จะได้รับแจ้งและแนะนำให้ติดตั้งโดยเร็วที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่า iPhone ใช้งาน iOS เวอร์ชันล่าสุดและปลอดภัยที่สุดอยู่เสมอ
  • iOS มีการเข้ารหัสที่รัดกุม iPhone มีคุณสมบัติการเข้ารหัสในตัวที่เรียกว่า FileVault ซึ่งจะเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดบนอุปกรณ์โดยใช้รหัสผ่านหรือการตรวจสอบสิทธิ์แบบไบโอเมตริก (เช่น Touch ID หรือ Face ID) ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าจะมีคนเข้าถึง iPhone ของคุณได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่องโทรศัพท์ของคุณโดยไม่ทราบรหัสผ่านหรือมีลายนิ้วมือหรือใบหน้าของคุณได้ นอกจากนี้ iPhone ยังรองรับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางสำหรับ iMessage และ FaceTime ซึ่งหมายความว่าการสื่อสารของคุณปลอดภัยและไม่มีใครดักจับหรืออ่านข้อความได้ แม้แต่ทาง Apple เอง

Content Cover

ระบบความปลอดภัยของโทรศัพท์ Android

โทรศัพท์แอนดรอยด์มักถูกมองว่ามีความปลอดภัยน้อยกว่า iPhone สาเหตุหลักมาจากสาเหตุต่อไปนี้:

  • Android เป็นระบบเปิด กล่าวคือระบบปฏิบัติการ Android ใช้เคอร์เนล Linux ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใครๆ ก็แก้ไขหรือปรับแต่งได้ ซึ่งทำให้ระบบ Android มีความยืดหยุ่นและหลากหลายในการใช้งานมากกว่า แต่ด้วยความที่เป็นระบบเปิดของมัน นั่นทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดระบบที่หลากหลายและความไม่สอดคล้องกันมากกว่าอีกด้วย กล่าวคือ มี Android เวอร์ชันต่างๆ มากมาย รวมถึงผู้ผลิตและผู้ให้บริการหลายรายที่ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์ Android ส่งผลให้เกิดการกำหนดค่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่หลากหลายมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการรักษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของโทรศัพท์ Android นอกจากนี้ Android ยังอนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปจากแหล่งโหลดแอพจากบุคคลที่สาม ซึ่งอาจมีความเสี่ยงหากแอปไม่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยจริงๆ หรือขาดความน่าเชื่อถือได้
  • Android มีการอัปเดตไม่สม่ำเสมอ ใครที่เคยใช้โทรศัพท์ Android มาแล้วจะทราบกันดีว่าการอัปเดตระบบปฏิบัติการ ไม่ได้มีบ่อยครั้งนัก หรือเป็นกำหนดการเหมือนกับการอัปเดต iOS ซึ่้งแม้ว่าทาง Google จะปล่อยอัปเดตสำหรับ Android มาสม่ำเสมอ แต่ไม่สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์ Android ทุกรุ่นในทันที แต่การอัปเดตจะต้องดำเนินการผ่านผู้ผลิตและผู้ให้บริการซึ่งอาจแก้ไขหรือเลื่อนเวลาออกไปตามความต้องการหรือกำหนดการของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android บางรุ่นอาจไม่ได้รับอัปเดททั้งตัวระบบปฏิบัติการ Android และ Patch ความปลอดภัยเวอร์ชั่นล่าสุดที่สุด หรืออาจได้รับช้ากว่ารุ่นอื่นๆ มาก สิ่งนี้จะสร้างช่องว่างด้านความปลอดภัยและทำให้โทรศัพท์ Android เผชิญกับภัยคุกคามและการโจมตีง่ายมากขึ้น
  • Android มีการเข้ารหัสที่หละหลวมมากกว่า โทรศัพท์ Android ก็มีฟีเจอร์การเข้ารหัสเช่นกัน แต่ไม่ได้เปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานด้วยตนเองในการตั้งค่า และเลือกรหัสผ่านหรือ PIN ที่คาดเดายากเพื่อเข้ารหัสข้อมูล อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำนวนมากอาจไม่ทราบถึงคุณลักษณะเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ หรืออาจไม่สนใจที่จะใช้ฟีเจอร์พวกนี้ นอกจากนี้ การเข้ารหัสข้อมูลภายในโทรศัพท์ Android ยังถือว่าไม่แข็งแกร่งเท่ากับการเข้ารหัสระบบ iOS ของ iPhone เนื่องจากสามารถข้ามขั้นตอนได้ด้วยวิธีบางอย่าง เช่น การรูทหรือการแฟลชอุปกรณ์ นอกจากนี้ระบบ Android ไม่รองรับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง เพื่อการสื่อสารที่ปลอดภัย สำหรับแอปส่งข้อความ Native ที่ติดมากับระบบ และแอปของบุคคลที่สาม

บทสรุป

โดยสรุปแล้วโทรศัพท์ iPhone และ Android มีแนวทางด้านความปลอดภัยที่แตกต่างกัน และแต่ละแพลตฟอร์มก็มีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง iPhone มีการออกแบบที่ปลอดภัยกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดและมีราคาแพงกว่าโทรศัพท์ Android ค่อนข้างมาก ในขณะที่โทรศัพท์ Android มีความยืดหยุ่นและราคาไม่แพง แต่ก็มีช่องโหว่และมีความหลากหลายของเวอร์ชั่นจากรุ่นและยี่ห้อที่มากกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการเพียงเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานและสิ่งที่คุณทำเพื่อปกป้องมันด้วย ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางส่วนเกี่ยวกับวิธีการรักษาโทรศัพท์มือถือของคุณให้ปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะใช้ iPhone หรือโทรศัพท์ Android ก็ได้ อันได้แก่:

  • ใช้รหัสผ่านที่รัดกุมหรือเปิดระบบรักษาความปลอดภัยด้วยไบโอเมตริก นี่เป็นแนวป้องกันแรกและเป็นพื้นฐานที่สุดสำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ กล่าวคือ ควรเลือกรหัสผ่านหรือ PIN ที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำกัน และหากอุปกรณ์ของคุณรองรับก็ควรเปิดระบบสแกนลายนิ้วมือหรือการจดจำใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่อง อย่าเปิดเผยรหัสผ่านหรือข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของคุณกับใครก็ตาม และอย่าปล่อยให้อุปกรณ์ของคุณปลดล็อคตลอดเวลาหรือไม่มีระบบป้องกัน
  • อัปเดตอุปกรณ์ของคุณเป็นประจำ การอัปเดตระบบปฏิบัติการและ Patch ความปลอดภัย เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของโทรศัพท์ ควรตรวจสอบการอัปเดตบ่อยๆ และติดตั้งทันทีที่พร้อมใช้งาน อย่าเพิกเฉยหรือเลื่อนการอัปเดต เนื่องจากอาจมีแพตช์หรือการแก้ไขด้านความปลอดภัยที่สำคัญรอให้ติดตั้งอยู่ ถ้าหากโทรศัพท์ Android ยี่ห้อหรือรุ่นไหน ที่ลอยแพผู้ใช้จากการอัปเดตความปลอดภัย ก็ไม่ควรซื้อโทรศัพท์ยี่ห้อนั้นมาใช้เป็นอันขาด
  • ติดตั้งแอพจากแหล่งที่เชื่อถือได้ แอพเป็นแหล่งหลักของการที่โทรศัพท์ของเราจะได้รับมัลแวร์และภัยคุกคามอื่นๆ สำหรับสมาร์ทโฟนทุกระบบ โปรดจำไว้ว่า ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอพจากแหล่งที่เป็นทางการ ได้แก่ App Store หรือ Google Play เท่านั้น หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดและติดตั้งแอพจากสโตร์อื่นหรือที่ไม่รู้จักโดยเด็ดขาด และควรตรวจสอบรีวิว และการให้คะแนนของแอพก่อนทำการติดตั้ง นอกจากนี้ ให้ความใส่ใจกับการอนุญาตและการเข้าถึงที่แอพร้องขอ และให้สิทธิ์เฉพาะในกรณีที่จำเป็นและสมเหตุสมผลเท่านั้น เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ Android ห้ามกดลิงก์จากข้อความแชท, SMS หรือ Message จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่รู้จัก หรือข้อความที่ส่งต่อๆ กันมาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เครื่องติดมัลแวร์ที่เป็นอันตรายได้ด้วยเช่นกัน
  • การเข้ารหัสและการใช้ VPN ทั้งสองเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของโทรศัพท์มือถือของคุณได้ การเข้ารหัสจะปกปิดข้อมูลของคุณและทำให้ใครก็ตามที่ไม่มีกุญแจจะไม่สามารถถอดรหัสเพื่ออ่านเนื้อหาจริงๆ เหล่านั้นได้ ส่วนเทคโนโลยี VPN จะสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวระหว่างโทรศัพท์มือถือของคุณกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และซ่อนที่อยู่ IP และตำแหน่งที่แท้จริงของคุณไม่ให้มีผู้ใดรู้ได้ ดังนั้่น การเข้ารหัสและการใช้เทคโนโลยี VPN ทุกครั้งที่คุณต้องจัดเก็บหรือส่งข้อมูลละเอียดอ่อนหรือข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลธนาคาร หรือข้อความ จึงมีความปลอดภัยสูง
  • โปรดใช้ความระมัดระวังกับการใช้ Wi-Fi และบลูทูธสาธารณะ ในชีวิตประจำวันของเรานั้น คุณจะพบกับ Wi-Fi และบลูทูธสาธารณะอยู่ทั่วไปในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ร้านอาหาร สถานีขนส่ง สนามบิน สถานศึกษา เป็นต้น แม้ว่าจะมีประโยชน์และสะดวกดี แต่ก็มีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยเช่นกัน แฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ Wi-Fi และบลูทูธสาธารณะเหล่านั้น เพื่อดักจับหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ หรือจะทำให้โทรศัพท์มือถือของคุณติดมัลแวร์ได้ ดังนั้่น อย่าเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi หรือ Bluetooth สาธารณะที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่มีความน่าเชื่อถือโดยเด็ดขาด

iPhone 15 128GB ชิป A16 Bionic สุดทรงพลัง ชิปที่เร็วสุดแรงสุด

การเชื่อมต่อด้วยช่องต่อ USB-C, เทเลโฟโต้ 2 เท่า ให้คุณจัดเฟรมภาพระยะใกล้ได้อย่างลงตัว, Dynamic Island ต่อให้คุณจะทำอย่างอื่นอยู่ คุณก็ไม่พลาดเรื่องไหนๆ ...

Content Cover

iPhone 14 Pro Max จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว Dynamic Island

วิธีใหม่ที่มหัศจรรย์ในการโต้ตอบกับ iPhone กล้องหลักความละเอียด 48MP ที่มีความละเอียดมากขึ้นสูงสุด 4 เท่า โหมดภาพยนตร์ที่วันนี้มาในแบบ Dolby Vision ระดับ 4K สูงสุด 30 fps ...

Content Cover

ความคิดเห็น