iPhone 13 ดีกว่า iPhone 12 ยังไง ซื้อรุ่นไหนดีให้คุ้ม

หลังจากเปิดตัวไป กับการอัปเกรดหลาย ๆ อย่าง ทำให้หลายคนที่กำลังอยากซื้อโทรศัพท์ใหม่สนใจ iPhone 13 เอามาก ๆ นอกจากนั้น ยังมีรุ่นตัวเลือกที่เปิดตัวพร้อมกันอย่าง iPhone 13 Mini, Pro และ Pro Max ทางแอปเปิ้ลได้โชว์อะไรใหม่ ๆ หลายอย่าง เช่น ระบบกล้องแบบใหม่ ปรับเปลี่ยนดีไซน์หน้าตาซะใหม่โดยเฉพาะติ่งหรือรอยบากด้านบนหน้าจอให้มีขนาดเล็กลง เพิ่มความจุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น รวมไปถึงมีสีเครื่องให้เลือกแตกต่างกันไป ความจุที่จะไม่ได้เห็นที่ 64GB อีกต่อไป มีแต่ 128GB เป็นขั้นต่ำที่จะทำให้ลดปัญหาโทรศัพท์ Storage เต็มไว ทีนี้การเก็บรูปภาพ ลงแอป โหลดเพลง และอื่น ๆ ก็จะทำได้เยอะขึ้น หรือคนที่ชอบเก็บทุก ๆ อย่างไว้ในโทรศัพท์อาจจะเลือกเป็น iPhone 13 Pro ที่มีความจุให้เลือกเยอะสุดที่ 1TB เลยทีเดียว ข้อเสียอย่างเดียวที่คุณจะต้องคิดก็คือ ราคามันแพงเอาการเลยทีเดียว ถ้างบประมาณของคุณจำกัด อาจจะลองหันมามองรุ่นที่เก่ากว่า เปิดตัวก่อนหน้านั้นซะ 1 ปีเป็นไง

iPhone 12 และแม้แต่ iPhone 12 Mini ก็ไม่ได้ล้าสมัยไปแต่อย่างใด ยังน่าสนใจและยังใช้ได้อยู่เสมอ ข้อดีของมันคือ ราคาตกลงมามากเลยทีเดียว อย่างน้อย ๆ ก็ 3,000 กว่าบาทเป็นอย่างน้อยเลย ยิ่งถ้าคุณไม่ได้แคร์เรื่องความจุสักเท่าไร กับแค่ 64GB พอใช้ได้แล้ว ก็ยิ่งประหยัดเงินได้เข้าไปอีก จุดสำคัญของสมาร์ทโฟนนอกจากเรื่อง Storage แล้ว เรื่องความเร็วในการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่ง iPhone 12 ยังคงทำงานเร็วหายห่วง แถมยังรองรับเครือข่าย 5G ชิป A14 Bionic ของ Apple ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวใหม่ล่าสุด แต่ก็ยังดีมาก ๆ ไม่แพ้โทรศัพท์เรือธงล่าสุดของฝั่งแอนดรอยด์เลย อย่างไรก็ตาม ใครที่อยากใช้รุ่นใหญ่อย่าง iPhone 12 Pro หรือ Pro Max ต้องรู้ตรงนี้ว่าทางแอปเปิ้ลยกเลิกการผลิตไปแล้ว นั่นก็เพื่อเปิดตลาดให้กับ iPhone 13 Pro และ Pro Max อย่างเต็มที่ (แอบเสียดายเหมือนกัน)

iPhone 13 Pro Max 256GB Sierra Blue

จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว Super Retina XDR display ชิป A15 Bionic เร็วสุดขั้ว เล่นวิดีโอ นานสูงสุด 28 ชั่วโมง โหมดภาพยนตร์ ชัดตื้นและสลับจุดโฟกัสโดยอัตโนมัติ ...

Content Cover

ราคาที่ลดลง

หลายคนรอให้รุ่นใหม่ออก เพื่อจะได้ซื้อรุ่นเก่า เพราะราคาจะลดลงมาหลายพันบาท และโอกาสแบบนี้ได้มาถึงแล้ว เพราะ iPhone 12 และ iPhone 12 Mini มีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า iPhone 13 อยู่ไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะซื้อแค่ความจุ 64GB เท่านั้น ก็ต้องเผื่อจะว่าในอนาคต คุณอาจจะเจอปัญหา Storage เต็มเมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ ในอนาคต เพราะอย่างลืมว่า แอปพลิเคชั่นเดียวนี้ต้องการพื้นที่ที่เยอะขึ้นในการทำงาน รวมถึงกล้องโทรศัพท์สมัยนี้ถ่ายภาพที่ความละเอียดที่มาก นี่ไม่ต้องพูดถึงการถ่ายวิดีโอเก็บไว้เลย ทำให้ไม่นานความจุของโทรศัพท์ก็จะเต็ม การตัดสินใจซื้อเครื่องที่มีแค่ 64GB ก็อาจจะต้องคิดให้มากหน่อย แต่ถ้าจะซื้อที่ 128GB หรือ 256GB สำหรับ iPhone 12 ราคาก็อาจจะไม่ถูกลงเยอะอย่างที่หวัง (ถูกลงแค่ 1,000 กว่าบาทถ้าจะเอาความจุเยอะขึ้น) ดังนั้น ถ้าประหยัดเงินได้แค่นี้ พิจารณาซื้อ iPhone 13 ไปเลยดีกว่าไหม แต่ถ้าคุณต้องการเพียงมือถือ 5G แล้วก็ไม่ได้ติดตั้งแอปอะไรมากมาย ก็ซื้อ iPhone 12 ที่ถูกกว่าที่มีฟีเจอร์เกือบทุกอย่างเหมือน iPhone 13 ก็ได้

แบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า

แอปเปิ้ลเคลมว่าแบตเตอรี่ของ iPhone 13 สามารถทำงานได้ยาวนานกว่า iPhone 12 อยู่ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ส่วน 13 Mini แบตทำงานได้ยาวนานกว่า 12 Mini 1 ชั่วโมงครึ่ง อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการรีวิวก็พบว่าไม่ว่ารุ่นไหน ยังไงก็สามารถใช้งานได้ยาว ๆ สบาย ๆ ตลอดทั้งวันเหมือนกันกับการชาร์จหนึ่งครั้ง เรื่อง Battery Life ก็อาจจะรู้สึกดีขึ้นได้ไม่เท่าไร (สำหรับใช้งานทั่วไป ไม่ได้ใช้เล่นเกมส์ยาว ๆ)

ชิป A15 Bionic ปะทะ A14 Bionic

ชิปทั้งสองสำหรับไอโฟนทั้งสองรุ่น ล้วนทำให้การใช้งานทุกอย่าง Smooth ไม่ว่าจะเป็น การโทร FaceTime การรับและพิมพ์ส่งข้อความ เล่นเกมมือถือ การดูวิดีโอสตรีมมิ่ง ไม่ว่าใช้ A15 หรือ A14 สำหรับ iPhone 13 และ 12 ตามลำดับ แทบจะไม่เห็นความแตกต่าง แม้ว่าชิป A15 อาจจะถูกออกแบบมาใหม่ให้รองรับพวกอุปกรณ์และซอฟท์แวร์ใหม่ ๆ ของแอปเปิ้ลได้มากกว่า เช่น พวกเทคโนโลยี VR การตัดต่อวิดีโอ ได้เจ๋งกว่าชิปตัวเก่า รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างโฟกัสอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินเข้ามาหน้าเฟรมกล้อง อะไรอย่างนี้เป็นต้น แต่ถ้าคุณเป็นคนใช้งานโทรศัพท์มือถือทั่วไป ไม่ได้แอดวานซ์อะไร ชิปทั้งสองตัวก็ใช้งานได้ไม่ต่างกันเลย

กล้องทั้ง iPhone 13 และ iPhone 12 เหมือนที่แตกต่าง

สเปคของกล้องถ่ายรูปทั้งสองรุ่น เป็นเซนเซอร์ 12MP ทั้งกล้องหน้าและหลังเหมือนกัน แต่ดูสเปคแค่นี้ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเหมือนกัน มาดูที่ iPhone 13 มากับ Layout กล้องใหม่ ที่ให้กล้องมุมกว้าง เซนเซอร์ใหญ่ขึ้นกับที่มีเสถียรภาพ เซนเซอร์ใหมของกล้อง Ultrawide ช่วยตอบสนองต่อแสงได้มากขึ้น ในด้านซอฟท์แวร์ iPhone 13 เพิ่มรูปแบบสไตล์ปรับแต่งภาพทำให้สามารถเลือกให้ภาพออกมาได้หลากหลายตามใจชอบ อันนี้ไม่เหมือนกับฟิลเตอร์ที่่คุณเจอในแอปอินสตาแกรม แต่มันทำงานละเอียดกว่านั้น มีการวิเคราะห์รูปถ่ายแล้วเข้าไปปรับให้เป็นไปตามสไตล์ที่เลือกไว้ตามต้องการ

เปรียบเทียบสเปค iPhone 13 vs iPhone 12

ลองดูตารางด้านล่างต่อไปนี้เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิคที่ลึกลงไป เพื่อให้คุณได้เห็นถึงความแตกต่างได้มากขึ้น

สเปคiPhone 12iPhone 13
หน้าจอ5.4 นิ้ว OLED 2340x1080 พิกเซล6.1 นิ้ว OLED 2532x1170 พิกเซล
ชิปโปรเซสเซอร์Apple A14 BionicApple A15 Bionic
แรมไม่เปิดเผยไม่เปิดเผย
ความจุ64GB, 128GB, 256GB 128GB, 256GB, 512GB
กล้องหลัง12MP (Wide)+12MP (Ultrawide)12MP (Wide)+12MP (Ultrawide)
กล้องหน้า12MP12MP
ถ่ายวิดีโอ4KHDR บันทึกกับ Dolby Vision ถึง 4K 60fps
ความหนาแน่นพิกเซล476ppi460ppi
ขนาดจอ5.18x2.53x0.29 นิ้ว5.78x2.82x0.3 นิ้ว
ขนาดจอ131.5x64.2x7.4 มิลลิเมตร147x72x7.65 มิลลิเมตร
น้ำหนัก135 กรัม174 กรัม
ซอฟท์แวร์iOS 14iOS 15
เพิ่มความจุไม่ได้ไม่ได้
แบตเตอรี่ไม่เปิดเผย เล่นวิดีโอ 15 ชม.ไม่เปิดเผย เล่นวิดีโอ 19 ชม.
เซนเซอร์ลายนิ้วมือไม่ได้ (มีเฉพาะ Face ID)ไม่ได้ (มีเฉพาะ Face ID)
สายเชื่อมต่อLightningLightning
ช่องเสียบหูฟังไม่มีไม่มี
ฟีเจอร์พิเศษรองรับ 5G, MagSafe, กันน้ำ (IP68), ชาร์จไร้สาย, รองรับ dual-SIM (nano-SIM+e-SIM)รองรับ 5G, MagSafe, กันน้ำ (IP68), ชาร์จไร้สาย, รองรับ dual-SIM (nano-SIM+e-SIM)

ความคิดเห็น