HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ที่มีดีไซน์แบบคลิปหนีบหู Earbuds เป็นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และมากับเทคโนโลยีระบบเสียงคุณภาพสูง เน้นให้ใช้งานได้สะดวกสบาย ปลอดภัย และปิดกั้นเสียงรบกวนรอบข้างได้ ในบทความนี้ เราจะรีวิว HUAWEI FreeClip และประเมินฟีเจอร์ต่างๆ ประสิทธิภาพ รวมถึงจะมาสรุปข้อดีและข้อเสีย เพื่อให้คุณพอจะมีข้อมูลว่ามันดีไหนที่จะหาซื้อมาเป็นหูฟังคู่ต่อไปของคุณหรือไม่
มาทำความรู้จักหูฟังรุ่นนี้กันก่อน
หูฟัง HUAWEI FreeClip เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด Fashion Forward หรือการทำอุปกรณ์ที่นำเอาแฟชั่นที่ดูดีๆ เข้ามารวมกับอุปกรณ์สวมใส่ของ Huawei เป็นการตอบสนองต่อกลุ่มผู้ใช้งานที่นิยมอุปกรณ์หูฟังที่กำลังเติบโต ซึ่งต้องการหูฟังไร้สายแบบอินเอียร์ที่ช่วยให้การฟังเพลงกับเสียงคุณภาพสูงไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร การออกแบบหูฟังรุ่นนี้เป็นลักษณะแบบคลิปหนีบหู ประกอบด้วยสามส่วน ได้แก่ Comfort Bean, Acoustic Ball และ C-bridge
Comfort Bean เป็นส่วนที่วางอยู่บนติ่งหูและเป็นที่เก็บแบตเตอรี่และส่วนควบคุมด้วยท่าทาง, ในขณะที่ Acoustic Ball เป็นส่วนทรงกลมที่อยู่ด้านหน้าส่วนโค้งของหู และประกอบด้วยไดรเวอร์ยูนิตความไวสูงแบบแม่เหล็กคู่ ขนาด 10.8 มม., ในส่วนของ C-bridge เป็นส่วนที่โอบรอบหลังใบหู และทำจากโลหะอัลลอยผสม Ni-Ti จดจำรูปทรงได้ มีประสิทธิภาพสูงเพื่อความกระชับพอดีกับใบหู
หูฟัง HUAWEI FreeClip ใช้เทคโนโลยีการใช้อากาศเพื่อนำพาคลื่นเสียงเข้าสู่ช่องหูโดยตรง ลดการรั่วไหลของเสียง ทำให้แน่ใจได้ว่าผู้ฟังจะได้รับประสบการณ์การฟังที่เป็นส่วนตัวจริงๆ หูฟังรุ่นนี้ยังมีระบบไมโครโฟนที่ซับซ้อนซึ่งทำงานร่วมกับอัลกอริธึมโครงข่ายประสาทเทียมเชิงลึก (DNN) หลายช่องสัญญาณ เพื่อเลือกเสียงที่ต้องการจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การโทรคมชัด, หูฟังเอียร์บัดรุ่นนี้ยังรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบคู่ ซึ่งหมายความว่าสามารถจับคู่กับอุปกรณ์สองเครื่องได้ เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต พีซี หรือนาฬิกา และสลับเสียงระหว่างอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างราบรื่น โดยต้องไปไม่คำนึงถึงระบบปฏิบัติการอะไรด้วย
หูฟัง HUAWEI FreeClip สามารถใช้งานได้ยาวนานผ่านแบตเตอรี่ความจุเยอะกว่า โดยสามารถเล่นเพลงได้นานถึง 8 ชั่วโมงในการชาร์จครั้งเดียว หรือสามารถใช้งานได้สูงสุด 36 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับกล่องชาร์จที่ชาร์จเต็มแล้ว หูฟังรุ่นนี้ยังรองรับการชาร์จแบบเร็ว โดยใช้ฟังได้สูงสุด 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 10 นาที, หูฟังตัวนี้มาพร้อมกับแอป Huawei AI Life ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ตั้งค่าและปรับแต่งประสิทธิภาพของเอียร์บัดได้ เช่น การปรับโหมดอีควอไลเซอร์ การเปลี่ยนการควบคุมด้วยท่าทาง และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่, หูฟัง HUAWEI FreeClip มีให้เลือกสองสี: สีดำและสีม่วง และราคาอยู่ที่ 179.99 ปอนด์ / 199 ยูโร หรือถ้าคิดเป็นเงินไทย ก็ประมาณ 7,962 บาท

รีวิว
มีข้อมูลการทดสอบ HUAWEI FreeClip ออกมา เป็นการประเมินการออกแบบ คุณภาพเสียง คุณภาพการโทร อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และฟีเจอร์ของแอป พอสรุปออกมาเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
การออกแบบ
ถ้าเปรียบเทียบกับหูฟังไร้สายอื่นทั่วๆ ไป หูฟัง HUAWEI FreeClip มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และดูหรูหรากว่ามาก หูฟังตัวนี้มีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย โดยมีน้ำหนักเพียงประมาณ 5.6 กรัมต่อข้าง การออกแบบเป็นลักษณะคลิปหนีบหู ทำให้สวมและถอดได้ง่าย และสามารถเปลี่ยนข้างได้ มาพร้อมช่องเสียงซ้าย-ขวาที่ปรับเปลี่ยนได้เอง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสวมหูฟังข้างหนึ่งกับหูข้างใดก็ได้, หูฟังรุ่นนี้ยังกันน้ำได้ด้วยโดยมากับมาตรฐานกันน้ำระดับ IP54 อีกด้วย ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและการออกกำลังกายเบาๆ ได้
อย่างไรก็ตาม การออกแบบของหูฟัง HUAWEI FreeClip ไม่ได้ไม่มีข้อบกพร่องเลย กล่าวคือ การใช้งานหูฟังตัวนี้ บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันอาจจะหลุดออกจากหูได้ในบางสถานการณ์ เช่น เมื่อวิ่งหรือก้มตัว การออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปตัว C อาจไม่พอดีกับรูปร่างและขนาดหูของคนบางคน และอาจทำให้เกิดแรงกดหรือความรู้สึกไม่สบายหลังจากใช้งานเป็นเวลานาน, หูฟังรุ่นนี้ยังไม่มีปุ่มกดทางกายภาพซึ่งต้องอาศัยการควบคุมด้วยท่าทางเพียงอย่างเดียว ซึ่งนี่อาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่าใช้งานยากในบางครั้ง, กล่องชาร์จยังค่อนข้างใหญ่และหนัก ทำให้บางคนรู้สึกว่าพกพาลำบากบ้าง
คุณภาพเสียง
หูฟัง HUAWEI FreeClip ให้คุณภาพเสียงที่ดีสำหรับหูฟังแบบเปิดหู แต่ก็ไม่ได้ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับหูฟังระดับเดียวกันในท้องตลาดตอนนี้ หูฟังรุ่นนี้มีให้เสียงที่สมดุลและชัดเจน พร้อมเสียงกลางและเสียงสูงที่ดี แต่ไม่มีเสียงเบสและความลึกบ้างครั้ง, หูฟังรุ่นนี้ยังรองรับโหมดอีควอไลเซอร์สามโหมด: ค่าเริ่มต้น เพิ่มเสียงเบส และเพิ่มเสียงแหลม ซึ่งสามารถปรับได้ในแอป, หูฟังทำงานได้ดีในการลดการรั่วไหลของเสียง ด้วยระบบคลื่นเสียงย้อนกลับที่ติดตั้งอยู่ภายใน Acoustic Ball อย่างไรก็ตาม หูฟังรุ่นนี้ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟหรือโหมดเสียงรอบข้าง ซึ่งหมายความว่าไม่เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังหรือสถานการณ์ที่คุณต้องการปิดกั้นหรือขยายเสียงภายนอก
คุณภาพการโทร
จากข้อมูล หูฟัง HUAWEI FreeClip มีคุณภาพการโทรเป็นเลิศ ด้วยฟีเจอร์ AI Crystal-Clear Call หูฟังมีไมโครโฟนสี่ตัว โดยแต่ละข้างมีไมโครโฟนสองตัว ซึ่งทำงานร่วมกับอัลกอริธึม DNN เพื่อกรองเสียงรบกวนรอบข้างออกและเพิ่มความชัดเจนของเสียง, หูฟังยังรองรับการลดเสียงรบกวนจากไมโครโฟนคู่ ซึ่งช่วยลดเสียงรบกวนจากลมและปรับปรุงคุณภาพการโทรในการตั้งค่ากลางแจ้ง หูฟังยังมีโหมดเวลาแฝงต่ำ ซึ่งจะช่วยลดความล่าช้าของเสียงและปรับปรุงการซิงโครไนซ์ระหว่างเสียงและวิดีโอ, หูฟังมีระยะการเชื่อมต่อที่ดีและการเชื่อมต่อที่เสถียร และไม่พบปัญหาสัญญาณขาดหายหรือการหยุดชะงักระหว่างการโทร
แบตเตอรี่และระยะเวลาการใช้งาน
หูฟัง HUAWEI FreeClip มีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ซึ่งถือเป็นจุดขายหลักประการหนึ่ง หูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับหูฟังเอียร์บัดไร้สายอื่นๆ กล่องชาร์จสามารถชาร์จเต็มได้ ช่วยยืดอายุการใช้งานรวมเป็น 36 ชั่วโมง หูฟังยังรองรับการชาร์จแบบเร็ว ซึ่งสามารถใช้งานหูฟังได้นานถึง 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 10 นาที หูฟังมีพอร์ต USB-C และตัวเลือกการชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายและความหลากหลายในการชาร์จ หูฟังยังมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่บนกล่องชาร์จและแอป ซึ่งแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของหูฟังแต่ละข้างและของตัวเคส
คุณสมบัติของแอพ
หูฟัง HUAWEI FreeClip ทำงานร่วมกับแอป Huawei AI Life ซึ่งใช้งานได้กับอุปกรณ์ Android และ iOS แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหูฟังได้ เช่น การปรับโหมดอีควอไลเซอร์ การเปลี่ยนเป็นการควบคุมด้วยท่าทาง และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ แอพนี้ยังมีการอัพเดตเฟิร์มแวร์ คู่มือผู้ใช้ และเคล็ดลับในการแก้ปัญหาสำหรับหูฟัง แอพนี้มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย และง่ายต่อการจับคู่และเชื่อมต่อหูฟังกับแอพ อย่างไรก็ตาม แอพไม่มีคุณสมบัติบางอย่างที่เหมือนกันสำหรับหูฟังไร้สายอื่น เช่น ฟังก์ชั่นค้นหาหูฟัง การทดสอบเสียง หรือการกำหนดโปรไฟล์เสียงส่วนบุคคล
สรุปข้อดีและข้อเสียของหูฟัง HUAWEI FreeClip
- ข้อดี
- น้ำหนักเบาและรูปลักษณ์สวยงามที่เป็นเอกลักษณ์
- ดีไซน์แบบเปิดหูที่ใช้งานได้สะดวกสบายและไม่ต้องห่วงเรื่องการระบายอากาศ
- คุณภาพการโทรที่คมชัด
- ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนาน
- มีชาร์จระบบเร็วและระบบชาร์จแบบไร้สาย
- สามารถปรับแต่งและเลือกคุณสมบัติต่างๆ ผ่านแอพ
- ข้อเสีย
- การออกแบบที่ไม่มั่นคงนัก บางคนอาจรู้สึกว่ากลัวทำหล่นจากหู โดยเฉพาะขณะออกกำลังกาย
- คุณภาพเสียงไม่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับหูฟังในระดับเดียวกัน
- ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนหรือโหมดเสียงรอบข้าง
- การควบคุมด้วยท่าทางอาจยังไม่น่าเชื่อถือมากนัก
- เคสชาร์จเทอะทะและหนัก
- แอปขาดคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์บางประการ
- รู้สึกว่าราคาแพงไปหน่อย
บทสรุป
HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังไร้สายตัวจริงที่นำเสนอการออกแบบหูฟังแบบเปิดหูรูปแบบใหม่ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและหรูหรา ดีไซน์แบบเปิดหูที่สะดวกสบาย ใช้งานง่าย คุณภาพการโทรที่คมชัด ระยะการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และแอปที่เลือกปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม หูฟังรุ่นนี้ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น การออกแบบที่ไม่มั่งคงนักทำให้บางคนอาจรู้สึกว่าไม่สบายใจ กลัวทำหล่น คุณภาพเสียงที่ไม่ได้ดีที่สุดในหมู่หูฟังระดับเดียวกัน ขาดระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟหรือโหมดเสียงรอบข้าง ระบบควบคุมด้วยท่าทางที่สามารถทำงานได้แต่ยังไม่น่าเชื่อถือนัก, เคสชาร์จที่เทอะทะและหนัก, แอพที่ขาดฟีเจอร์ที่มีประโยชน์บางอย่าง และราคาหูฟังที่รู้สึกว่าสูงไปหน่อย สุดท้ายแล้ว ด้วยราคาประมาณ 7 พันกว่าบาท หูฟัง HUAWEI FreeClip ถือเป็นตัวเลือกที่ดีระดับต้นๆ ของคนที่กำลังหาหูฟังระดับพรีเมี่ยม ดีไซน์ล้ำๆ และคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
หูฟัง HUAWEI FreeClip
หูฟัง HUAWEI FreeClip มีให้เลือกสองสี: สีดำและสีม่วง และราคาอยู่ที่ 179.99 ปอนด์ / 199 ยูโร หรือถ้าคิดเป็นเงินไทย ก็ประมาณ 7,962 บาท สามารถใช้งานได้ยาวนานผ่านแบตเตอรี่ความจุเยอะกว่า โดยสามารถเล่นเพลงได้นานถึง 8 ชั่วโมงในการชาร์จครั้งเดียว หรือสามารถใช้งานได้สูงสุด 36 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับกล่องชาร์จที่ชาร์จเต็มแล้ว หูฟังรุ่นนี้ยังรองรับการชาร์จแบบเร็ว โดยใช้ฟังได้สูงสุด 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 10 นาที ...

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น