หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มหรือ Random Access Memory หรือ RAM เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของโทรศัพท์มือถือ เป็นที่ที่โทรศัพท์มือถือจัดเก็บข้อมูลของแอพและกระบวนการที่ทำงานทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้า ยิ่งโทรศัพท์มี RAM มากเท่าใด แอปและงานต่างๆ ก็สามารถจัดการได้พร้อมๆ กันมากขึ้นโดยไม่ทำให้ช้าลงหรือหยุดทำงาน
อย่างไรก็ตาม การมี RAM มากขึ้นก็ไม่ได้ดีเสมอไป นอกจากนี้ยังมีข้อเสียและข้อด้อยบางอย่างที่มาพร้อมกับ RAM ที่มากขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น การใช้แบตเตอรี่ที่สูงขึ้น และความสิ้นเปลืองทรัพยากรที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การที่โทรศัพท์มือถือมี RAM มากขึ้นไม่ได้รับประกันประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความเร็วและประสิทธิภาพของโทรศัพท์ เช่น โปรเซสเซอร์ พื้นที่เก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ และพฤติกรรมของผู้ใช้
โทรศัพท์มือถือ RAM 8GB ดีหรือไม่? ถือว่าเยอะมั้ย? แรมเท่าไหร่ดี? แล้วจริงๆ แล้วแรมจะช่วยอะไรโทรศัพท์มือถือ? ในบทความนี้ เราจะพยายามตอบคำถามเหล่านี้โดยการเปรียบเทียบขนาด RAM ของโทรศัพท์รุ่นและยี่ห้อต่างๆ ดูว่าปัจจัยต่างๆ ส่งผลต่อการใช้งานและความต้องการ RAM อย่างไร เน้นข้อดีข้อเสียของการมี RAM ขนาด 8GB สำหรับโทรศัพท์ พร้อมให้คำแนะนำ และเคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือ RAM ขนาด 8GB
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือต้องการ RAM เท่าใดถึงจะดี
ขนาด RAM ของโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากโทรศัพท์มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถเรียกใช้แอปและเกมที่ซับซ้อนและมีความต้องการมากขึ้น ปัจจุบันขนาด RAM โดยเฉลี่ยของโทรศัพท์มือถือจะอยู่ที่ประมาณ 6GB แต่บางรุ่นและบางยี่ห้อจะมี RAM มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับตลาดเป้าหมายและช่วงราคา
ตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy S24 Ultra หนึ่งในโทรศัพท์ระดับพรีเมี่ยมและเป็นเรือธง มี RAM ขนาดมหึมา 12GB ซึ่งมากกว่าแล็ปท็อปและเดสก์ท็อปรุ่นประหยัดบางรุ่น ในทางกลับกัน iPhone 15 หนึ่งในโทรศัพท์ที่ได้รับความนิยมและขายดี มี RAM เพียง 6GB ซึ่งถือว่าธรรมดาเมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือ Android รุ่นเรือธง อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่องถือว่ารวดเร็วและทำงานราบรื่น เนื่องจากมีวิธีจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพ RAM ที่แตกต่างกัน
โทรศัพท์มือถือต้องการ RAM เท่าใด คำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทและจำนวนแอปที่ผู้ใช้ใช้งาน ระดับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันที่ผู้ใช้ทำ คุณภาพและความเข้มข้นของการเล่นเกมที่ผู้ใช้ต้องการ และความคาดหวังของผู้ใช้แต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปแล้ว RAM ขนาด 8GB นั้นเพียงพอสำหรับงานทั่วไปส่วนใหญ่ เช่น เล่นโซเชียลมีเดีย ดูวิดีโอ ฟังเพลง ดูหนังสตรีมมิ่ง ถ่ายรูป เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจต้องการ RAM มากกว่าหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน
ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ชอบเรียกใช้แอปจำนวนมากในพื้นหลังหรือสลับระหว่างแอปเหล่านั้นบ่อยๆ การมี RAM มากขึ้นสามารถช่วยรักษาแอปต่างๆ ไว้ในหน่วยความจำ และลดเวลาในการโหลดและความล่าช้าได้ ในทำนองเดียวกัน หากผู้ใช้ชอบเล่นเกมระดับไฮเอนด์ที่ต้องใช้กราฟิกและพลังการประมวลผลสูง การมี RAM มากขึ้นสามารถช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลและมีประสิทธิภาพดีขึ้่นได้ ในทางกลับกัน หากผู้ใช้ใช้แอปพื้นฐานเพียงไม่กี่แอปหรือไม่สนใจความเร็วและความราบรื่นของโทรศัพท์มากนัก การมี RAM น้อยลงก็สามารถประหยัดเงินและช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้
เพื่อแสดงให้เห็น ต่อไปนี้คือตัวอย่างและเกณฑ์มาตรฐานว่าโทรศัพท์ที่มีขนาด RAM ต่างกันทำงานอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ:
โทรศัพท์ที่มี RAM ขนาด 4GB สามารถรัน 10 แอปในพื้นหลังก่อนที่จะเริ่ม Kill แอปเหล่านั้น ในขณะที่โทรศัพท์ที่มี RAM ขนาด 8GB สามารถเรียกใช้แอปได้ประมาณ 20 แอปในเบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของแอปด้วย เนื่องจากบางแอปใช้ RAM มากกว่าแอปอื่นๆ
จากข้อมูลพบว่า iPhone 13 ที่มี RAM ขนาด 4GB มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Galaxy S21 Ultra พร้อม RAM ขนาด 16GB ในการทดสอบความเร็วบางอย่าง เช่น การเปิดแอป การเปิดกล้อง และการท่องเว็บ อย่างไรก็ตาม Galaxy S21 Ultra ที่มี RAM ขนาด 16GB เอาชนะ iPhone 13 ที่มี RAM ขนาด 4GB ในการทดสอบมัลติทาสก์บางอย่าง เช่น การเก็บแอปไว้ในหน่วยความจำและการสลับระหว่างแอปเหล่านั้น
โทรศัพท์มือถือสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดบางรุ่น ได้แก่ Asus ROG Phone 5 พร้อม RAM ขนาด 18GB, Nubia Red Magic 6 พร้อม RAM ขนาด 16GB และ OnePlus 9 Pro พร้อม RAM ขนาด 12GB โทรศัพท์เหล่านี้มีอัตราการรีเฟรชที่สูง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และโหมดการเล่นเกมโดยเฉพาะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แรงมากขึ้นและทำให้การเล่นเกมไหลลื่นไม่กระตุก อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์บางรุ่นที่มี RAM น้อยกว่า เช่น iPhone 13 ที่มี RAM 4GB และ Google Pixel 6 ที่มี RAM 8GB ก็สามารถรันเกมส่วนใหญ่ได้อย่างราบรื่นและน่าพอใจเช่นกัน เนื่องจากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้เหมาะสม
ตัวอย่างและเกณฑ์มาตรฐานเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า RAM ขนาด 8GB นั้นเพียงพอสำหรับงานทั่วไปส่วนใหญ่ แต่ผู้ใช้บางรายอาจต้องการ RAM มากกว่าหรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานและความต้องการของแต่ละคน
โทรศัพท์มือถือที่มี RAM 8GB มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
- ข้อดี
- การมี RAM 8GB ช่วยให้โหลดแอปได้เร็วขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์สามารถจัดเก็บข้อมูลในหน่วยความจำได้มากขึ้น และเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เนื่องจากผู้ใช้ไม่ต้องรอให้แอปโหลดหรือโหลดซ้ำทุกครั้งที่เรียกใช้
- มัลติทาสก์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น เพราะ RAM ขนาด 8GB ช่วยให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ราบรื่นยิ่งขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์สามารถเก็บแอปไว้ในหน่วยความจำได้มากขึ้นและสลับระหว่างแอปเหล่านั้นได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว สิ่งนี้ทำให้สามารถกลับมาใช้แอปต่อจากที่ค้างไว้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่สูญเสียงานหรือข้อมูลที่แอปกำลังทำอยู่
- ได้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์ RAM 8GB สามารถรันเกมที่ซับซ้อนและมีความต้องการหน่วยความจำมากขึ้นได้โดยไม่กระตุกหรือหยุดทำงาน สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ และต้องการฮาร์ดแวร์แรงๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้
- สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวๆ ในอนาคตได้ เนื่องจากโทรศัพท์สามารถรองรับความต้องการ RAM ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการของแอปและเกมใหม่ สามารถยืดอายุการใช้งานของโทรศัพท์ได้ เนื่องจากผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องอัปเกรดโทรศัพท์บ่อยๆ หรือลดคุณภาพและฟังก์ชันการทำงานของแอปและเกม
- ข้อเสีย
- ต้นทุนที่สูงขึ้น การมี RAM ขนาด 8GB สามารถเพิ่มต้นทุนด้านราคาของโทรศัพท์ที่จะซื้อ เนื่องจากโทรศัพท์ต้องการส่วนประกอบและวัสดุที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับขนาด RAM ที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่องบประมาณของผู้ใช้ เนื่องจากผู้ใช้ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อโทรศัพท์หรืออาจต้องลดคุณสมบัติหรือสเปคของโทรศัพท์บางอย่างเพื่อให้ได้แรมเยอะขึ้น
- ต้องใช้แบตเตอรี่ที่สูงขึ้น การมี RAM ขนาด 8GB จะทำให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์ต้องการไฟมากขึ้นเพื่อรักษาและใช้งานแรมที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของโทรศัพท์ได้ เนื่องจากผู้ใช้ต้องชาร์จโทรศัพท์บ่อยขึ้น หรืออาจต้องใช้โหมดประหยัดพลังงานบ่อยขึ้น
- การสิ้นเปลืองทรัพยากรที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการมี RAM ขนาด 8GB ของโทรศัพท์นั้น อาจไม่ได้ใช้ RAM ที่มีอยู่ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดตลอดเวลา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความซ้ำซ้อน เนื่องจากผู้ใช้อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากขนาด RAM ที่สูงกว่าเกินความจำเป็น
จะใช้โทรศัพท์ RAM ขนาด 8GB ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร?
การมี RAM ขนาด 8GB สำหรับโทรศัพท์อาจเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่เพียงพอหรืออาจจะมากเกินไปสำหรับบางคน ดังนั้นผู้ใช้ควรทำคำแนะนำในการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เคล็ดลับ
ผู้ใช้ควรปิดแอปที่ไม่ได้ใช้หรือจำเป็น เนื่องจากถ้าเปิดแอปมากเกินไปอาจใช้ RAM จำนวนมากและทำให้โทรศัพท์ช้าลง ผู้ใช้สามารถปิดแอปได้ด้วยตนเองโดยปัดออกจากหน้าจอแอปล่าสุด หรือใช้ปุ่ม "ล้างทั้งหมด"
ผู้ใช้ควรล้างแคชของแอปที่ใช้บ่อยหรือจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก เนื่องจากแอปเหล่านี้สามารถสะสมไฟล์ชั่วคราวและข้อมูลที่อาจใช้ RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลบางส่วน ผู้ใช้สามารถล้างแคชของแอปได้ด้วยตนเองโดยไปที่การตั้งค่าแอปแล้วแตะปุ่ม "ล้างแคช" หรือใช้ตัวเลือก "ล้างแคช" ในการตั้งค่าพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อล้างแคชของแอปทั้งหมดพร้อมกัน
ผู้ใช้ควรอัปเดตซอฟต์แวร์ของโทรศัพท์และแอปเป็นประจำ เนื่องจากการอัปเดตสามารถแก้ไขจุดบกพร่อง ปรับปรุงคุณสมบัติบางอย่าง และเพิ่มประสิทธิภาพบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการใช้ RAM ของโทรศัพท์และแอป ผู้ใช้สามารถอัปเดตได้ด้วยตนเองโดยไปที่การตั้งค่าแล้วแตะปุ่ม "ตรวจสอบการอัปเดต" หรือ "อัปเดตทั้งหมด" หรือใช้ตัวเลือก "อัปเดตอัตโนมัติ" เพื่อให้ระบบตรวจสอบว่ามีอะไรที่ต้องอัปเดตหรืไม่ ถ้ามีก็ให้ดำเนินการโดยอัตโนมัติได้เลยเมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
ผู้ใช้สามารถใช้แอปเพิ่ม RAM บางตัวเพื่อทำความสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพ RAM ของโทรศัพท์ได้ เนื่องจากแอปเหล่านี้สามารถสแกนและตรวจจับแอปและกระบวนการที่ใช้หน่วยความจำที่สิ้นเปลืองมากเกินไป จากนั้นจึงปิดหรือ Kill แอปเหล่านั้นให้เป็นอิสระ เพิ่ม RAM และเร่งความเร็วโทรศัพท์ ผู้ใช้สามารถใช้แอปเพิ่ม RAM บางตัวได้ เช่น Clean Master, CCleaner, RAM Booster ฯลฯ
สรุป
โดยสรุป โทรศัพท์มือถือที่มี RAM ขนาด 8GB นั้นดีสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ แต่ไม่จำเป็นหรือเพียงพอสำหรับงานทั่วไปส่วนใหญ่ เช่น เล่นโซเชียลมีเดีย แชท ดูวิดีโอ ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจต้องการ RAM มากกว่าหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน เช่น เการเรียกใช้แอปจำนวนมากพร้อมกันสำหรับทำงาน, ต้องสลับไปมาระหว่างแอปบ่อยๆ, เล่นเกมระดับไฮเอนด์เกินแรมเยอะๆ เป็นต้น
โทรศัพท์มือถือ ที่มี RAM 8GB มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น โหลดแอปได้เร็วขึ้น มัลติทาสกิ้งได้ราบรื่นขึ้น การเล่นเกมที่ดีขึ้น รองรับสำหรับอนาคตทำให้ใช้มือถือเครื่องไปได้อีกยากๆ เป็นต้น แต่ก็ยังมี ข้อเสียบางประการ เช่น ต้นทุนที่สูงขึ้นคือต้องจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อมือถือแรมเยอะๆ การใช้แบตเตอรี่ที่สูงขึ้น การสิ้นเปลืองทรัพยากรเกินความจำเป็นเนื้อจากหลายคนก็ไม่ได้ต้องการใช้แอปอะไรที่กินแรมสูงอะไรขนาดนั้น เป็นต้น ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากโทรศัพท์ RAM ขนาด 8GB ได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำและเคล็ดลับดังกล่าวด้านบน เช่น การปิดแอปที่ไม่ได้ใช้ การล้างแคช การอัปเดตซอฟต์แวร์ การใช้แอปเพิ่ม RAM เป็นต้น
Samsung Galaxy A25 (8+256GB) Blue (5G)
RAM 8 จอ Super AMOLED กล้อง 50 MP มีระบบกันสั่น OIS ถ่ายวิดีโอได้อย่างมืออาชีพ ระบบเสียงระดับโรงภาพยนตร์มาตรฐาน Dolby ATMOS แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน, Fast charge 25W, กล้องหน้า 13MP, กล้องหลัง 50MP (Main) + 8MP (Ultrawide) + 2 MP (Macro) ...

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น