ไม่กี่ปีก่อน Nvidia ได้เปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่น GeForce RTX 3060 ซึ่งถือเป็นการ์ดจอระดับกลางที่มีประสิทธิภาพสูง และด้วยราคาที่เหมาะสมจึงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเล่นเกม จนกระทั่งในปัจจุบัน การ์ดจอรุ่นนี้ได้กลายเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Steam ตามรายงานสำรวจฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Steam
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ GeForce RTX 3060 ประสบความสำเร็จอย่างมากคือประสิทธิภาพที่คุ้มค่ากับราคา ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญสำหรับนักเล่นเกมบนพีซี นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ส่งผลต่อความนิยมของกราฟิกการ์ดรุ่นนี้ เช่น ความสามารถในการประมวลผลกราฟิกขั้นสูง การรองรับเทคโนโลยีเรย์เทรซิ่ง และประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าการ์ดจอรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
ดังนั้นแม้ว่า GeForce RTX 3060 จะเป็นการ์ดจอที่วางจำหน่ายมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเล่นเกมในปัจจุบัน เนื่องจากยังคงมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมและราคาที่คุ้มค่า จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การ์ดจอรุ่นนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ASUS DUAL GEFORCE RTX 4060 EVO OC EDITION GDDR6 (3Y) CR6-001574
Model DUAL-RTX4060-O8G-EVO, Graphic Engine NVIDIA? GeForce RTX? 4060, Bus Standard PCI Express 4.0, OpenGL OpenGL?4.6, Video Memory 8GB GDDR6, Engine Clock OC mode : 2535 MHz, Default mode : 2505 MHz (Boost), CUDA Core 3072, Memory Speed 17 Gbps, Memory Interface 128-bit, Resolution Digital Max Resolution 7680 x 4320, Interface Native HDMI 2.1a x 1 , Native DisplayPort 1.4a x 3, HDCP Support Yes (2.3), Maximum Display Support 4, NVlink/ Crossfire Support No ...

การ์ดจอ GeForce RTX 3060 ดียังไง แรงขนาดไหน
เมื่อลงไปในรายละเอียด คุณจะเข้าใจถึงจุดเด่นของการ์ดจอรุ่นนี้ได้มากขึ้น กราฟิกการ์ดรุ่น Nvidia GeForce RTX 3060 ได้รับการออกแบบมาบนพื้นฐานของชิปประมวลผลกราฟิก Ampere รหัส GA106 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการคำนวณสูงถึง 12.74 ทริลลิออนโอเปอเรชันต่อวินาที โดยมีจำนวนหน่วยประมวลผลเชดเดอร์ทั้งสิ้น 3,584 ยูนิต ทำให้มีพลังประมวลผลเทียบเท่ากับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X
โดยการ์ดจอรุ่นนี้มีความจุหน่วยความจำแรมสำหรับการประมวลผลกราฟิกแบบ GDDR6 มากถึง 12GB สำหรับรุ่นที่มีความจุสูงสุด ซึ่งถือว่ามีปริมาณมากกว่าการ์ดจอรุ่นเร็วกว่าอย่าง RTX 3080 ที่มีแรมเพียง 10GB แต่เป็นประเภท GDDR6X ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเล็กน้อย การมีหน่วยความจำขนาดใหญ่ถึง 12GB นั้นถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการความจุแรมสูงในการประมวลผลกราฟิกระดับความละเอียดสูงและมีการใช้งานเทคโนโลยีเรย์เทรซิ่ง
นอกจากนี้ การ์ดจอ RTX 3060 ยังมีสเปกการทำงานที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุดที่ 1.77 GHz แนวทางเชื่อมต่อหน่วยความจำแบบ 128-บิต ที่รองรับแบนด์วิดธ์ 240 GB/s และมีพลังงานสิ้นเปลืองขณะทำงานสูงสุดที่ 170 วัตต์ ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับการ์ดจอรุ่นท็อปจากซีรี่ส์ 40 แต่ก็ยังสามารถให้สมรรถนะที่น่าประทับใจ คุณสมบัตเหล่านี้ประกอบกับราคาที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับกราฟิกการ์ดรุ่นท็อปในปัจจุบัน จึงทำให้ Nvidia GeForce RTX 3060 กลายเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเกมเมอร์ แม้ว่าจะเป็นการ์ดจอที่วางจำหน่ายมานานกว่า 3 ปีแล้วก็ตาม เพราะด้วยสมรรถนะที่คุ้มค่ากับราคา นั่นเอง
การ์ดจอ GeForce RTX 3060 ยังเล่นเกมดีไหมในปัจจุบัน
จุดประสงค์ของการซื้อการ์ดจอหลักๆ ก็คือ เอาไปใช้เล่นเกมนั้นเอง แต่การ์ดจอตัวนี้เหมาะกับการเล่นเกมดีขนาดไหน โดยเฉพาะในปัจจุบันเป็นยังไงแล้ว
การ์ดจอรุ่น Nvidia GeForce RTX 3060 มีประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟิกอยู่ในระดับเดียวกับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นล่าสุด ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการเล่นเกมทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเล่นในระดับความละเอียด 1080p (1,920 x 1,080 พิกเซล) ด้วยการตั้งค่ารายละเอียดกราฟิกในระดับกลางถึงสูง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ Nvidia ที่ต้องการจับตลาดนักเล่นเกมที่มีงบประมาณในการซื้อกราฟิกการ์ดประมาณ 9,000 - 12,000 บาท
ในช่วงราคาดังกล่าว RTX 3060 ต้องแข่งขันกับการ์ดจอของคู่แข่งอย่าง Radeon RX 7600 จาก AMD และ Arc A750 จาก Intel ซึ่งทั้งสองรุ่นมีข้อจำกัดที่ความจุหน่วยความจำสูงสุดเพียง 8GB และใช้พลังงานมากกว่า ในขณะที่การ์ดจอ RTX 3060 มีประสิทธิภาพในการรองรับเทคโนโลยีเรย์เทรซิ่งที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ Nvidia ยังมีชุดซอฟต์แวร์เสริมที่น่าสนใจ อาทิ เทคโนโลยีการปรับปรุงภาพ DLSS, Nvidia Reflex ลดปัญหาการสะดุดของภาพ, Nvidia Broadcast ช่วยปรับปรุงวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และ RTX Video Super Resolution เพิ่มความละเอียดของวิดีโอ เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นจุดแข็งที่ทำให้การ์ดจอ RTX 3060 มีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมกว่าการ์ดจอคู่แข่งในราคาเดียวกัน
เจาะลึกและการเปรียบเทียบ
การ์ดจอ RTX 3060 มีพื้นฐานมาจากสถาปัตยกรรมชิปประมวลผลกราฟิก Ampere ของ Nvidia ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดมาทดแทนสถาปัตยกรรม Turing ที่ใช้งานมาก่อนหน้านี้ โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการปรับปรุงส่วนประมวลผล Streaming Multiprocessor (SM) ให้สามารถประมวลผลแบบ Integer และ Floating Point 32 (FP32) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในสถาปัตยกรรมเก่า SM มีระบบประมวลผลสำหรับ Integer และ FP32 แยกออกจากกัน แต่ใน Ampere นั้น Nvidia ได้เพิ่มจำนวนคอร์สำหรับการประมวลผล FP32 มากขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิมที่ SM มีเพียง 64 คอร์ CUDA ก็กลายเป็น 128 คอร์ในรุ่นใหม่นี้ ทำให้แม้ว่าการ์ดจอ RTX 3060 จะมีจำนวน SM เพียง 28 ตัว ซึ่งน้อยกว่าการ์ดจอ RTX 2060 ที่มี 30 ตัว แต่ก็ยังมีคอร์ CUDA รวมทั้งสิ้นถึง 3,584 ตัว เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าเท่าตัว
เมื่อเทียบกับการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง GTX 1060 ที่มีคอร์ CUDA เพียง 1,280 ตัวเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ RTX 3060 จะมีประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกสูงกว่ามากถึงเกือบเท่าตัว โดย Nvidia ตั้งใจผลิต RTX 3060 เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ GTX 1060 โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการเพิ่มจำนวนคอร์ขึ้นอย่างมหาศาล แต่การเพิ่มประสิทธิภาพอาจไม่ได้มากขึ้นเป็นสัดส่วนโดยตรง แต่โดยรวมแล้ว การ์ดจอ RTX 3060 ก็สามารถให้ประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก
การ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 3060 มีรายละเอียดที่น่าสนใจอยู่หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของหน่วยความจำแรมสำหรับการประมวลผลกราฟิก ซึ่งตัวการ์ดมีถึง 12GB แบบ GDDR6 ที่เชื่อมต่อด้วยช่องสัญญาณขนาด 192 บิต ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับกราฟิกการ์ดระดับ 1080p
เหตุผลหลักที่ทำให้ Nvidia ตัดสินใจติดตั้งความจุแรมขนาดใหญ่ถึง 12GB นั้น เป็นเพราะด้วยขนาดช่องสัญญาณ 192 บิต ตัวชิปประมวลผลจะรองรับหน่วยความจำได้เพียง 6GB หรือ 12GB เท่านั้น และทาง Nvidia เลือกที่จะนำเสนอขนาดความจุสูงสุดที่มีให้กับผู้ใช้งาน แม้ว่าการมีหน่วยความจำขนาดใหญ่ขนาดนี้อาจไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพมากนักในการเล่นเกมระดับ 1080p แต่ก็นับเป็นสิ่งที่ดีที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการใช้งานในอนาคต
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของการ์ดจอ RTX 3060 ที่น่าสนใจกว่าคือความสามารถในการประมวลผลกราฟิกด้วยเทคโนโลยีเรย์เทรซิ่งและระบบปรับปรุงภาพ DLSS ซึ่งแม้ว่าฮาร์ดแวร์สำหรับการประมวลผลในส่วนนี้จะมีน้อยกว่ารุ่นท็อป แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการเล่นเกมในระดับความละเอียด 1080p โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งาน DLSS ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเรียบลื่นของเฟรมเรตได้เป็นอย่างดี จนอาจทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมดีขึ้นจากเฟรมเรตที่ 45 fps ไปเป็น 60 fps ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยประสิทธิภาพดังกล่าว ประกอบกับช่องทางการใช้งานเทคโนโลยี DLSS ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงนับเป็นจุดเด่นหลักของการ์ดจอตระกูล RTX ที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งรายอื่นๆ แม้ว่าบางรายจะเริ่มมีเทคโนโลยีใกล้เคียงกันแล้วก็ตาม
การออกแบบและการ์ดจอที่ใช้ RTX 3060
การ์ดจอรุ่น EVGA GeForce RTX 3060 Black XC ถือเป็นรุ่นพื้นฐานที่มีราคาไม่สูงมากนักของ RTX 3060 โดยมีรูปลักษณ์ค่อนข้างธรรมดาและไม่มีลูกเล่นพิเศษอย่างการมีไฟ RGB หรือฝาครอบใดๆ แต่ความเรียบง่ายกลับเป็นจุดเด่นที่ส่งผลให้ตัวการ์ดเข้ากับการออกแบบเคสคอมพิวเตอร์ได้ทุกรูปแบบ
การ์ดจอ EVGA RTX 3060 Black XC มีพัดลมระบายความร้อนสองตัวติดตั้งอยู่บนตัวระบายความร้อนขนาดกะทัดรัด โดยรวมแล้วมีขนาดเล็กกะทัดรัดมาก โดยมีความยาวเพียง 7.94 นิ้ว หรือราว 201 มิลลิเมตร จึงเป็นกราฟิกการ์ดขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งได้ง่ายในเคสทุกประเภท รวมถึงขนาดเล็กสำหรับระบบ Mini-ITX ด้วย นับเป็นข้อได้เปรียบมากเมื่อเทียบกับกราฟิกการ์ดรุ่นอื่นๆ ของ Nvidia RTX ซีรีส์ 3000 ที่มีขนาดใหญ่โตเกินไป
EVGA RTX 3060 Black XC ใช้ขั้วต่อสายไฟเพียงหนึ่งตัวคือ 8-pin PCIe connector เท่านั้น ไม่ต้องมีการเพิ่มสายไฟขั้วต่อ 12-pin เข้ามา เป็นการลดความยุ่งยากให้กับผู้ใช้งาน ในส่วนช่องสัญญาณภาพนั้นก็มีเพียงแค่ 3 ช่อง DisplayPort และ 1 ช่อง HDMI 2.1 อย่างง่ายๆ และไม่มีการรองรับช่องสัญญาณแบบ USB-C อีกด้วย ซึ่งจุดนี้อาจเป็นข้อเสียสำหรับผู้ใช้งานด้านมัลติมีเดียและนักออกแบบกราฟิก
แม้ว่า RTX 3060 รุ่นนี้จะมีความสามารถในการประมวลผลกราฟิกที่จำกัด แต่ก็มีจุดแข็งที่โดดเด่นในเรื่องของขนาดกะทัดรัด การใช้งานที่ง่ายและสะดวก รวมถึงราคาที่ไม่สูงเกินไป ทำให้เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการสมรรถนะระดับสูงสุด แต่ต้องการการ์ดจอที่มีพลังงานประมวลผลสูงพอเล่นเกมได้ด้วยราคาที่คุ้มค่า
ประสิทธิภาพ แรงแค่ไหน
การ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 3060 ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ยังคงใช้การ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง GTX 1060 อยู่ โดย Nvidia ระบุว่า RTX 3060 มีประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกสูงกว่า GTX 1060 ถึงเกือบเท่าตัว ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าข้อกล่าวอ้างนี้เป็นความจริง ในการทดสอบเกมต่างๆ การ์ดจอ RTX 3060 สามารถให้ประสิทธิภาพได้ดีกว่าการ์ดจอ GTX 1060 ประมาณ 80-120% โดยมีเพียงเกม Assassin's Creed Valhalla เท่านั้นที่ประสิทธิภาพไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากปัญหาด้านการควบคุมการใช้งานทรัพยากรการ์ดจอของเกมเอง
ย้อนกลับไปในปี 2016 นั้น GTX 1060 นั้นถือเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากมีสมรรถนะเพียงพอต่อการเล่นเกมในระดับความละเอียด 1080p ด้วยอัตราเฟรมเรต 60fps ได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป เกมใหม่ๆ ก็มีการพัฒนาด้านกราฟิกให้สวยงามมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้การ์ดจอ GTX 1060 เริ่มมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในเกมใหม่อย่าง Watch Dogs Legion, Cyberpunk 2077 และ Dirt 5 ซึ่งเป็นเกมที่มีกราฟิกสวยงามมาก ด้วยเหตุนี้ การ์ดจอ RTX 3060 จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ การ์ดจอ GTX 1060 ที่ต้องการอัปเกรดการ์ดจอของตัวเองให้แรงขึ้น เพื่อให้สามารถเล่นเกมใหม่ๆ ที่มีกราฟิกสวยงามได้อย่างลื่นไหล
7 เกมยอดนิยมที่เหมาะกับการเล่นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 3060
นี่เป็นการ์ดจอระดับกลางยอดนิยมที่สามารถรันเกมล่าสุดที่ความละเอียดสูงสุด 1440p โดยไม่มีปัญหาอะไรและไหลลื่นได้เป็นส่วนใหญ่ นี่คือ 7 เกม ที่คุณสามารถใช้เล่นได้ด้วยการ์ดจอ RTX 3060 ได้
- เกม Fortnite (2017) - ภาพได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญด้วยการอัปเดต Chapter 4 ล่าสุด, ความละเอียดเป้าหมาย 1080p/1440p, ตั้งค่าคุณภาพไว้สูงสุด Epic, ไม่มี Ray Tracing, FPS ที่คาดหวังไว้คือ 60+, เกม Fortnite นี้เป็นเกมที่เล่นฟรี ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลย
- เกม Hogwarts Legacy(2023) - เกมเกี่ยวกับโลกแห่งเวทมนตร์ เกมนี้นำเสนอรูปแบบการเล่นที่สมจริงและเรื่องราวที่น่าติดตาม ความละเอียดเป้าหมาย 1080p/1440p ตั้งค่าคุณภาพไว้ระดับสูง, ไม่มี Ray Tracing, FPS ที่คาดหวังไว้คือ 40+
- เกม Grand Theft Auto 5 (GTA 5) และ GTA Online (2015) - เกมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงเป็นตำนาน การ์ดจอ RTX 3060 สามารถรันด้วยความละเอียดสูงสุด 4K ความละเอียด 1080p/1440p/2160p ตั้งค่าคุณภาพไว้สูงสุด, FPS ที่คาดหวังไว้คือ 60+ ขณะนี้เกมนี้ลดราคาบนแพลตฟอร์มเช่น Steam และ Epic Games
- เกม Assassin's Creed Valhalla (2020) - เป็นเกมภาคล่าสุดในซีรีย์ Ubisoft อัตราเฟรมที่สามารถเล่นได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1440p ความละเอียดเป้าหมาย 1080p/1440p ตั้งค่าคุณภาพไว้สูงมาก, FPS ที่คาดหวังไว้คือ 50+ FPS (1080p), 40+ FPS (1440p) ราคา 60 ดอลลาร์ เป็นเกมแนวการผจญภัยไวกิ้งที่สวยงามตระการตา
- เกม Cyberpunk 2077 เป็นเกมแนว RPG โลกเปิดแห่งอนาคตพร้อมทิวทัศน์เมืองที่มีรายละเอียดมากมาย ความละเอียดเป้าหมาย 1080p/1440p ตั้งค่าคุณภาพไว้ สูง/สูงพิเศษ, FPS ที่คาดหวังไว้คือ 40+ FPS (1080p), 30+ FPS (1440p) แม้ว่าการเปิดตัวจะไม่ราบรื่นนัก แต่ก็คุ้มค่าที่จะได้สัมผัสกับโลกไซเบอร์พังค์
- เกม Red Dead Redemption 2 (2018) เป็นเกมการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ใน Wild West พร้อมทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ความละเอียดเป้าหมาย 1080p/1440p ตั้งค่าคุณภาพไว้ สูง/สูงพิเศษ, FPS ที่คาดหวังไว้คือ 50+ FPS (1080p), 40+ FPS (1440p) นี่เป็นเกมผลงานชิ้นเอกที่แสดงความสามารถของ RTX 3060 ได้ดีที่สุดเกมหนึ่ง
- เกม Control (2019) อันนี้เป็นเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัยเหนือธรรมชาติพร้อมภาพที่น่าเหลือเชื่อ ความละเอียดเป้าหมาย 1080p/1440p ตั้งค่าคุณภาพไว้ สูง/สูงพิเศษ, FPS ที่คาดหวังไว้คือ 50+ FPS (1080p), 40+ FPS (1440p) ลองเข้าไปสู่โลกลึกลับของ Federal Bureau of Control เป็นอีกเกมที่เหมาะกับคนที่มีเครื่องที่ใช้การ์ดจอ RTX 3060 อีกเกมหนึ่ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น