OnePlus 12 ดีไหมอะไรยังไง รีวิวข้อดีข้อเสีย

โดดเด่นด้วยสเปคระดับแนวหน้าของตลาดด้วยโปรเซสเซอร์อันทรงพลัง จอแสดงผลที่เต็มตา และความจุแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ โดยใช้งานได้นานกว่า 2 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมชาร์จเร็วเป็นพิเศษ OnePlus 12 กับราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น แม้ว่าแพงกว่ารุ่นก่อนกว่าหน่อย แต่เป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของหลายๆ อย่างของโทรศัพท์เรือธง อาจตรงความต้องการของใครหลายคน แต่เมื่อพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจ กลยุทธ์นี้อาจส่งผลย้อนกลับให้กับ OnePlus ต้องอยู่ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงกว่าเดิมแน่ ขณะเดียวกันการขึ้นราคาที่สูงขึ้นสำหรับรุ่นท็อปตัวบนแรมและความจุเพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก OnePlus รุ่นก่อน ทำให้โทรศัพท์รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดใจน้อยลงเมื่อเทียบกับมือถือเรือธงอื่นๆ ในตลาด

เรื่องความแรง ก็ต้องยอมรับว่า OnePlus 12 ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Pixel 8 Pro ของ Google ในแง่ของความแรงและระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ ส่วน Pixel สู้กลับด้วยกล้องที่เหนือกว่าและข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในการอัปเดตซอฟต์แวร์ 7 ปีเทียบกับ 4 ปี แต่มีหลายคนชอบซอฟต์แวร์ใน Pixel มากกว่า การเลือกระหว่างโทรศัพท์เรือธงทั้งสองนี้จะขึ้นอยู่กับความชอบของตัวคุณเอง ผู้ใช้ที่คำนึงถึงงบประมาณอาจพบว่า OnePlus 12 มีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าและประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วกว่า แถมในไทยยังหาซื้อง่ายกว่าด้วย อย่างไรก็ตาม คนที่ชอบการถ่ายภาพที่จริงจังหรือผู้ที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนซอฟต์แวร์ในระยะยาวน่าจะพอใจกับ Pixel 8 Pro มากกว่า แม้ว่าจะมีราคาที่แพงกว่าก็ตาม อย่างไรก็ตาม OnePlus 12 ยังขาดฟีเจอร์ AI ล้ำสมัยที่กำลังแพร่หลายมากขึ้นในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ นี่อาจทำให้รู้สึกล้าสมัยเมื่อเทียบกับคู่แข่งจาก Samsung และ Google

OnePlus 12 (Global ROM)

ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 3 ( Support Thai and Google Play ) รองรับ 5G หน้าจอ 6.82 inches AMOLED,120Hz กล้องหน้า 32MP,f/2.4 กล้องหลัง 50MP+64MP+48MP แบตเตอรี่ 5400mAh,100W SUPERVOOC Charge ...

Content Cover

ในบทความนี้ ผมจะมารีวิวสเปค ประสิทธิภาพ และอื่นๆ ของมือถือรุ่นนี้โดยละเอียด พร้อมจะสรุปข้อดีและข้อเสียมาให้คุณได้อ่านด้วย ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังอย่างได้ OnePlus 12 กันอยู่ เอาไว้ช่วยตัดสินใจได้

ข้อดีและข้อเสียในภาพรวมของ OnePlus 12

  • ข้อดี
    • ชิปเซตประมวลผลแรงมากๆ ทรงพลังอย่างยิ่ง
    • จัดการพลังงานได้ยอดเยี่ยมและแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ยาวๆ
    • ระบบชาร์จเร็วดีมาก
    • จอแสดงผลดีมาก ขนาดใหญ่ และสวยงามมีชีวิตชีวา
    • กล้องที่ยอดเยี่ยมพร้อมความสามารถในการซูมแบบออปติคัล
    • มีระดับการกันน้ำและฝุ่น IP65 สามารถทนต่อน้ำที่หกใส่หรือการเปียกฝนได้ (แต่ไม่ได้กันน้ำได้ทั้งหมด)
  • ข้อเสีย
    • ประสิทธิภาพของกล้องในภาวะแสงน้อยอาจจะน่าผิดหวังสำหรับบางคน
    • มือถือเรือธงจากยี่ห้อคู่แข่งสนับสนุนการอัปเดทซอฟต์แวร์ที่ยาวนานกว่า
    • ยังไม่มี Generative AI ต่างจากมือถือเรือธงคู่แข่ง

การออกแบบตัวเครื่องที่คุ้นตา

OnePlus 12 แม้จะดูคล้ายกับรุ่นก่อน แต่ก็มีพื้นผิวด้านของส่วนหลังตัวเครื่องที่มีลวดลายหยักๆ ที่โดดเด่น โดยเฉพาะในรุ่นสีเขียว ตัวเลือกการออกแบบนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมและแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยเมื่อเทียบกับพื้นผิวมันเงาของ OnePlus 11 อย่างไรก็ตาม มุมมองนี้อาจแตกต่างกันของแต่ละบุคคล โดยบางคนก็เปรียบเสมือนวัสดุพลาสติกราคาถูกก็ได้ แต่นั้นเป็นการมองโลกในแง่ร้ายไปหน่อย ตามหลักสรีรศาสตร์ OnePlus 12 ได้รับการปรับปรุงโดยการย้ายปุ่มปรับระดับเสียงไปไว้ที่ด้านเดียวกับปุ่มเปิดปิดทำให้ใช้งานด้วยมือเดียวได้ สวิตช์สลับอันเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus ยังได้มีพื้นที่ของตัวเองในด้านตรงข้าม ความทนทานเป็นคุณสมบัติหลัก ด้วยการนำ Corning Gorilla Glass Victus 2 มาใช้สำหรับกระจกด้านหน้าและ Gorilla Glass 5 สำหรับด้านหลัง

OnePlus 12 มีระดับการกันน้ำและฝุ่น IP65 ซึ่งหมายความว่าทนทานในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่างๆ ระดับ IP65 บ่งชี้ว่าตัวเครื่องของโทรศัพท์กันฝุ่นและสามารถทนต่อถูกน้ำกระเด็นเข้าใส่ในแรงดันต่ำอย่างต่อเนื่องจากทุกทิศทาง ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ควรจะสามารถทนต่อน้ำที่หกใส่หรือการเปียกฝนได้โดยไม่มีความเสียหายใดๆ แต่ไม่ได้กันน้ำได้ทั้งหมด

การปรับปรุงการทำงานที่โดดเด่นคือความสามารถของหน้าจอในการจดจำอินพุตแบบสัมผัสแม้ในขณะที่เปียก การทดสอบแสดงให้เห็นว่าหน้าจอของ OnePlus 12 ยังคงใช้งานได้แม้ว่ามีน้ำพรมอยู่บนหน้าจอ ซึ่งแสดงข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูลเพียงเล็กน้อย ต่างจากหน้าจอของ iPhone 15 Pro Max ที่ไม่ค่อยดีนักภายใต้สภาวะที่คล้ายคลึงกัน ความยืดหยุ่นต่อการสัมผัสน้ำถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับ OnePlus 12 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ในสภาพอากาศที่เปียกชื้น ช่วยหน้าฝน หรือผู้ที่มีแนวโน้มที่จะทำน้ำหกโดยไม่ตั้งใจบ่อยครั้ง โดยรวมแล้ว OnePlus 12 ดูเหมือนจะสร้างความสมดุลระหว่างสไตล์การออกแบบ ความสะดวกสบาย และการใช้งานจริง ได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยคุณสมบัติสเปคอย่างหลายอย่างที่โดดเด่นที่อาจดึงดูดในสำหรับผู้ซื้อที่อยากได้มือถือระดับเรือธงที่ครบเครื่องที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดมือถือช่วงนี้

จอแสดงผล

OnePlus 12 มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.82 นิ้ว มีพื้นที่กว้างเต็มตาสำหรับการดูวิดีโอ ดูหนัง และเล่นเกมที่ดีมากๆ ด้วยความละเอียดสูงทำให้มั่นใจได้ว่า content ที่ดูนั้นทั้งหมดจะแสดงด้วยความคมชัด ด้วยสีสันที่สดใสของหน้าจอช่วยเพิ่มความสบายตาให้กับสื่อทุกประเภท ตั้งแต่รายการ Netflix ไปจนถึงเกมบนมือถือที่ต้องอยู่กับมันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกอย่างคือ อัตราการรีเฟรชที่เปลี่ยนแปลงได้ของจอแสดงผล ตั้งแต่ 1 ถึง 120Hz ซึ่งปรับประสิทธิภาพให้เหมาะสมสำหรับงานที่มีความต้องการสูงต่ำไม่เหมือนกัน เช่น การเล่นเกม โดย OnePlus บอกว่าจอแสดงผลนี้สว่างที่สุดในโทรศัพท์ทุกรุ่นในตลาด ด้วยความสว่างสูงสุดที่ 4,500 nits ซึ่งเกินกว่าความสว่างของ Samsung Galaxy S24 Ultra และประมาณสองเท่าของ iPhone 15 Pro Max แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้จะอิงจากการทดสอบ แต่ในการใช้งานจริง ความสว่างของ OnePlus 12 ไม่ได้แตกต่างจาก iPhone หรือมือถือเรือธงของ Samsung มากนัก อย่างไรก็ตาม การที่จอแสดงผลของ OnePlus 12 มีความสว่างเป็นพิเศษนั้น จะช่วยให้การมองเห็นเนื้อหาในหน้าจอชัดเจนแม้ในที่อยู่กลางแจ้งหรือแม้แต่มีแดด ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเดินทางบ่อยครั้งหรือต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างจ้า

ชิปประมวลผลอันทรงพลัง

OnePlus 12 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 3 ล่าสุด โดยมีตัวเลือก RAM ระหว่าง 12GB ถึง 16GB ชิประดับแนวหน้านี้รับประกันประสิทธิภาพที่แรงมากๆ และ OnePlus ปรับปรุงสิ่งนี้ด้วย นั่นคือ Trinity Engine ซึ่งช่วยปรับ CPU, RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลให้เหมาะสมเพื่อประสบการณ์การใช้โทรศัพท์มือถือที่ราบรื่นยิ่งขึ้น แม้ว่าการกล่าวอ้างดังกล่าวมักจะพบกับการตั้งคำถาม แต่ OnePlus 12 ก็ให้ประสบการณ์ผู้ใช้ที่รวดเร็ว แรง และตอบสนองได้ดีอย่างแท้จริง เกมที่มีความต้องการสูง เช่น เกมแอคชั่น RPG Genshin Impact จะสามารถเล่นได้อย่างไร้ที่ติที่การตั้งค่าสูงสุด โดยให้อัตราเฟรมที่ 60 เฟรมต่อวินาทีอย่างราบรื่นโดยไม่มีการกระตุกหรือ Lag เลย ในทำนองเดียวกัน เกมแบทเทิลรอยัล PUBG และเกมแข่งรถ Asphalt 9: Legends ต่างก็ทำงานได้ดีได้ดั่งใจเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมบนมือถือ โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถของอุปกรณ์ในการจัดการเซสชันการเล่นเกมที่เข้มข้นได้อย่างง่ายดาย ระดับประสิทธิภาพนี้บ่งบอกว่า OnePlus 12 เป็นมือถือเรือธงระดับต้นๆ ของตลาดตอนนี้เลย

การเปรียบเทียบ

OnePlus 12 สร้างความประทับใจในตลาดสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพจากการทดสอบ Benchmark ด้านกราฟิกด้วย 3DMark's Wild Life Extreme ที่ทำโดยนักรีวิวในต่างประเทศ พบว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าทั้ง Galaxy S24 Ultra และ iPhone 15 Pro Max มันตามหลัง Asus ROG Phone 8 Pro เพียงเล็กน้อยซึ่งใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 ตัวเดียวกันเพียงเล็กน้อย คะแนนที่สูงนี้บ่งบอกถึงความสามารถด้านกราฟิกอันทรงพลังของโทรศัพท์รุ่นนี้

ในแง่ของการใช้งาน ก็จะพบว่า OnePlus 12 มีความเร็วและมัลติทาสกิ้งเป็นเลิศ โดยไม่มีการชะลอตัวที่จะเห็นได้ชัดเลย แสดงว่าการผสมผสานระหว่างชิปขั้นสูงและการปรับแต่งซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพ OnePlus แนะนำว่าประสิทธิภาพนี้จะคงอยู่ต่อไปแม้ในขณะที่พื้นที่เก็บข้อมูลของอุปกรณ์เต็ม แม้ว่าจะยังคงเห็นได้เมื่อใช้ในระยะยาว

การทำงานบน Android 14 พร้อม Oxygen OS ของ OnePlus อินเทอร์เฟซนั้นใช้งานง่ายสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ Android ที่เคยชินแล้ว อย่างไรก็ตาม OnePlus เสนอการอัปเดตซอฟต์แวร์เพียง 4 ปีและการอัปเดตความปลอดภัยปีที่ 5 ซึ่งน้อยกว่า 7 ปีที่ให้บริการโดยคู่แข่งอย่าง Google และ Samsung ระยะเวลาการสนับสนุนที่สั้นลงอาจเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับ OnePlus 12 เนื่องจากการสนับสนุนที่ยาวนานขึ้นทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและความยั่งยืนในการใช้งานโทรศัพท์มือถือที่ยาวนานขึ้น

การใช้งาน OnePlus แบบยาวๆ ยังถูกตั้งคำถามเพิ่มเติมด้วยการลดการสนับสนุนสำหรับรุ่น OnePlus 12R ที่ราคาถูกกว่า ซึ่งบ่งชี้ว่าความยั่งยืนในระยะยาวของการใช้งานเป็นสิทธิพิเศษของรุ่นที่มีราคาแพงกว่าเท่านั้น นอกจากนี้ OnePlus 12 ไม่ได้เน้นฟีเจอร์ Generative AI เหมือนอย่างคู่แข่ง แม้ว่าบางคนอาจพบว่าการขาด AI นี้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ก็อาจมองว่าเป็นการพลาดโอกาสไปในการใช้ประโยชน์จากความสามารถ AI ที่ทำงานร่วมกับชิป Snapdragon 8 Gen 3 การไม่มี AI รวมอยู่ใน OnePlus 12 อาจเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้ซื้อหลายคนต้องคิดสำหรับผู้ที่มองหาเทคโนโลยีล่าสุดล้ำๆ ให้มาอยู่ในสมาร์ทโฟนของตัวเอง

แบตเตอรี่และการชาร์จเร็ว

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ OnePlus 12 เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกเรื่อง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh การผสมผสานนี้ส่งผลให้มีการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งที่ยาวนานขึ้น จากการทดสอบในต่างประเทศพบว่า OnePlus 12 มีความสามารถในการรักษาระดับแบตเตอรี่ 100% แม้จะกำลังสตรีมวิดีโอ YouTube ที่ความสว่างสูงสุดเป็นเวลาสองชั่วโมงก็ตาม พบว่าลดลงเหลือเพียง 95% หลังจากชั่วโมงที่สาม ซึ่งทำได้ดีกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy S23 Ultra และ iPhone 15 Pro Max ในการทดสอบที่คล้ายกัน

การจัดการพลังงานที่น่าประทับใจของโทรศัพท์รุ่นนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้สามารถคาดหวังการใช้งานหนักได้เต็มวันหรือเกือบสองวันโดยการใช้งานระดับปานกลางโดยไม่จำเป็นต้องชาร์จใหม่เลย สำหรับช่วงเวลาที่จำเป็นต้องชาร์จแบตแล้วอย่างเร่งเร็ว OnePlus 12 ก็มีความสามารถในการชาร์จเร็ว 100 วัตต์ สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 26 นาที และชาร์จครึ่งหนึ่งได้ในเวลาเพียง 11 นาที

นอกจากนี้ OnePlus 12 ยังมากับระบบชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ไม่มีใน OnePlus 11 โดยรองรับความเร็วในการชาร์จไร้สายถึง 50 วัตต์ด้วยเครื่องชาร์จที่ใช้งานร่วมกันได้ ตัวเลือกการชาร์จที่หลากหลายนี้เมื่อรวมกับความจุแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานของโทรศัพท์ ทำให้ OnePlus 12 เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการโทรศัพท์เอาไว้ทำงานที่เร่งรีบทั้งวันทั้งคืน หรือต้องการใช้เพื่อเล่นเกมในระยะเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน

กล้องถ่ายภาพ

OnePlus 12 ยังคงรักษาความเฉพาะตัวของแบรนด์ในการชิปประมวลผลที่แรงมากๆ เช่นเคย ส่วนความสามารถของกล้องก็ยังคงเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน อุปกรณ์มีกล้องด้านหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซลพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และรูรับแสงกว้าง f1.6, กล้องอัลตร้าไวด์ 48 ล้านพิกเซล และกล้องเทเลโฟโต้ 32 ล้านพิกเซลพร้อมซูมออปติคอล 3 เท่า จากข้อมูลการรีวิวในต่างประเทศพบว่า การถ่ายภาพในเวลากลางวันให้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่อใช้กล้องหลัก โดยให้ค่าแสงที่ดี ภาพที่มีรายละเอียด และสีที่ค่อนข้างแม่นยำ ความสม่ำเสมอของสีระหว่างกล้องหลักและกล้องอัลตร้าไวด์ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ออพติคอลซูม 3 เท่าของกล้องเทเลโฟโต้จับภาพได้ชัดเจน แต่คุณภาพจะลดลงเมื่อซูมแบบดิจิทัล 6 เท่า ขาดความสามารถในการซูมออปติคอลที่คาดหวังไว้เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโทรศัพท์ Pixel 8 Pro และ iPhone 15 Pro Max

การถ่ายภาพตอนกลางคืนเป็นจุดที่ OnePlus 12 ทำได้ไม่ดีนัก แม้จะมีรูรับแสงที่กว้างขึ้นและเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นซึ่งตามทฤษฎีแล้วควรจะทำงานได้ดีในที่แสงน้อย แต่จากการรีวิวในต่างประเทศพบว่า ภาพมักจะมืดเกินไป โดยเฉพาะจากเลนส์มุมกว้างพิเศษ ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนของ OnePlus 11 ดีกว่าในบางกรณีด้วยซ้ำ ประสิทธิภาพของการซูมด้วยเลนส์ไม่สอดคล้องกัน โดยบางภาพดูคมชัด ในขณะที่บางภาพเบลออย่างน่าผิดหวัง

ระบบกล้องหลักของ OnePlus 12 สามารถถ่ายภาพสวยๆ ได้ในสภาวะที่เอื้ออำนวย ทำให้เหมาะกับการถ่ายภาพแบบสบายๆ ของคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมาะกับการแข่งขันเรื่องกล้องของมือถือระดับเรือธงอื่นๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย ซึ่งอาจเป็นข้อเสียสำคัญสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหรือช่างภาพระดับมือโปร โดย OnePlus 12 อาจตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยได้สบายๆ แต่สำหรับผู้ที่มองหาประสิทธิภาพของกล้องระดับท็อปโดยเฉพาะในการถ่ายภาพในเวลากลางคืนอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด

กล้องเซลฟี่ของ OnePlus 12 เป็นองค์ประกอบสำคัญเช่นกัน โดยมีเซ็นเซอร์ความละเอียด 32MP ที่สามารถถ่ายภาพตัวเองที่มีรายละเอียดและคุณภาพดี ผู้ใช้สามารถคาดหวังภาพที่คมชัดพร้อมความแม่นยำของสีที่ดี ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแชร์รูปลงโซเชียลมีเดียบ่อยครั้ง หรือต้องการไลฟ์สดลงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เลนส์โฟกัสคงที่ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติมอีกให้ยุ่งยาก ในแง่ของประสิทธิภาพ กล้องเซลฟี่มีความเป็นเลิศในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างเพียงพอ ทำให้ได้ภาพที่ทั้งคมชัดคุณภาพสูง แม้ว่ากล้องเซลฟี่ของ OnePlus 12 อาจไม่มีความสามารถดีนักในสภาวะแสงน้อยเหมือนกับคู่แข่งมือถือเรือธงอื่นบางราย แต่ก็ยังคงให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในสภาวะส่วนใหญ่

ความคิดเห็น