Vivo เพิ่งเปิดตัวมือถือตระกูล S-series รุ่นใหม่ ซึ่งประกอบด้วยสามรุ่นย่อย ได้แก่ Vivo S18, Vivo S18 Pro และ Vivo S18e โทรศัพท์มือถือเหล่านี้นำเสนอคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น หน้าจอ AMOLED, กล้อง 50 ล้านพิกเซล และระบบชาร์จเร็ว 80W ในบทความนี้ เราจะมารีวิวสเปค การออกแบบ ประสิทธิภาพ กล้อง แบตเตอรี่ ซอฟต์แวร์ และราคาของ Vivo S18 Series ในประเทศไทยกัน อันนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ของผู้ที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่อยู่ ไปดูกันว่า vivo S18 Series น่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับคุณหรือไม่
การออกแบบ
Vivo S18 และ Vivo S18 Pro มีการออกแบบที่เหมือนกันโดยมีจอแสดงผลแบบด้านข้างโค้งมนและมีช่องเจาะสำหรับกล้องเซลฟี่, โดยที่ Vivo S18 และ Vivo S18 Pro มีแฟลช LED กรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ระดับสตูดิโอเต็มขอบโมดูลกล้องด้านหลัง ในขณะที่ Vivo S18e มีจอแสดงผลแบนและโมดูลกล้องเป็นวงกลมที่ด้านหลัง มีแฟลช LED แบบวงแหวนเล็ก 2 วง อยู่ภายในโมดูลกล้องด้านหลัง โทรศัพท์ทั้งสามรุ่นมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และมีคุณสมบัติกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น IP54
ตัวเครื่องมีหลายสีให้เลือก ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย โดยที่ vivo S18 และ vivo S18 Pro ตัวเครื่องมีให้เลือก3 สี ได้แก่ Blooming Flower Blue, Clear Green และ Black, ส่วน vivo S18e ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สีเช่นกัน ได้แก่ Cloud White, Purple และ Starry Night Black
ประสิทธิภาพ
Vivo S18 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200+ ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ 4nm octa-core พร้อมคอร์ Cortex-X3 คล็อกที่ 3.35GHz และมี GPU Immortalis-G715 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมโดยเฉพาะ, ในขณะที่ Vivo S18 ใช้ Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 SoC ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ octa-core 4nm พร้อมคอร์ Cortex-A715 คล็อกที่ 3.0GHz และมี Adreno 720 GPU สำหรับประมวลผลกราฟิก, สุดท้าย Vivo S18e ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ octa-core ขนาด 4 นาโนเมตร พร้อมคอร์ Cortex-A510 คล็อกที่ 2.0GHz และมี GPU Mali-G610 MC4 สำหรับประมวลผลกราฟิก ทั้งสามรุ่นมี RAM ขนาด 12GB หรือ 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 3.1 ขนาด 256GB หรือ 512GB
กล้องถ่ายภาพ
Vivo S18 และ Vivo S18 Pro มีกล้อง 50 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วน vivo S18e มีกล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล โดยแจกแจงให้ละเอียดลงได้ดัวต่อไปนี้
Vivo S18 Pro มีกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก IMX920 50 ล้านพิกเซล (f/1.88) พร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS, กล้องอัลตราไวด์ ISOCELL JN1 50 ล้านพิกเซล (f/2.0) และกล้อง Telephoto IMX663 12 ล้านพิกเซล (f/1.98) ถ่ายภาพบุคคลเทเลโฟโต้ 2x, ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/2.0)
Vivo S18 มีกล้องหลัง 2 ตัว OmniVision OV50E 50 ล้านพิกเซล (f/1.9) พร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS, กล้องอัลตราไวด์ OmniVision OV08D10 มุมกว้างพิเศษ 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล (f/2.0)
Vivo S18e มีกล้อง 2 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก LYT-600 50 ล้านพิกเซล (f/1.9) พร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS, กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล (f/2.0)
ทั้งสามรุ่นมีแฟลช LED ซึ่งแตกต่างกันตามแต่ละรุ่นย่อย กล่าวคือ Vivo S18 และ Vivo S18 Pro มีแฟลช LED กรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ระดับสตูดิโอเต็มขอบโมดูลกล้องด้านหลัง ในขณะที่ Vivo S18e มีแฟลช LED แบบวงแหวนเล็ก 2 วง อยู่ภายในโมดูลกล้องด้านหลัง
แบตเตอรี่
โทรศัพท์ Vivo S18 series มีแบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 80W นอกจากนี้ Vivo S18 Pro และ Vivo S18 ยังรองรับโปรโตคอล Power Delivery (PD) เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งสามรุ่นสามารถชาร์จได้ถึง 50% ในเวลาเพียง 15 นาที และสูงถึง 100% ในเวลาเพียง 35 นาที
ซอฟต์แวร์
โทรศัพท์ Vivo S18 series ทำงานบน Android 14 ถูกครอบด้วย UI ของ Vivo นั่นก็คือ OriginOS 4 นำเสนออินเทอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่สดใหม่และเรียบง่าย พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น วอลเปเปอร์ไดนามิก วิดเจ็ตอัจฉริยะ การนำทางด้วยท่าทาง และการปกป้องความเป็นส่วนตัว, OriginOS 4 ยังรองรับการทำงานร่วมกันหลายหน้าจอ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อโทรศัพท์ Vivo S18 ซีรีส์กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น แล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ททีวีได้อย่างราบรื่น เพิ่มประโยชน์ใช้สอยได้ยืดหยุ่นและหลากหลายกว่าเดิม
ราคาในประเทศไทย
Vivo S18 series เป็นรุ่นที่วางขายในจีนเท่านั้น ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ถูกคาดว่าจะเปลี่ยนเป็น vivo V Series และใช้ชื่อว่า Vivo V30 และ V30 Pro ในการขายระดับ Global และในประเทศไทย แต่จากราคาในจีน เราสามารถประมาณราคาที่เป็นไปได้ในไทย
Vivo S18 8GB+256GB ราคาอยู่ที่ประมาณ 11,800 บาท, 13,300 บาท สำหรับรุ่น 12GB+256GB, 14,400 บาท และ 15,400 บาท สำหรับรุ่น 12GB + 512GB และรุ่น 16GB + 512GB ตามลำดับ
Vivo S18 Pro 12GB+256GB ราคาอยู่ที่ประมาณ 16,400 บาท, 17,900 บาท สำหรับรุ่น 16GB+256GB และ 19,000 บาท สำหรับรุ่น 16GB+512GB
Vivo S18e 12GB+256GB ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,800 บาท และ 11,800 บาท สำหรับรุ่น 12GB+512GB
สรุปข้อดีข้อเสียของโทรศัพท์ Vivo S18 series
- ข้อดี
- จอแสดงผล AMOLED ที่มีความละเอียดสูง อัตราการรีเฟรชและความสว่างระดับเรือธง
- กล้อง 50 ล้านพิกเซล ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะกับการใช้ถ่ายภาพตั้งแต่ทั่วไปจนถึงมือโปร
- ชาร์จเร็ว 80W พร้อมรองรับ Power Delivery เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- ประสิทธิภาพอันทรงพลังด้วยโปรเซสเซอร์ 4 นาโนเมตร และ RAM สูงสุด 16GB
- การออกแบบเพรียวบางพร้อมหน้าจอโค้งและแฟลช LED วงแหวนระดับสตูดิโอ
- ทำงานบนระบบ OriginOS 4 พร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ดูดีและเรียบง่าย
- ข้อเสีย
- ไม่มีระบบชาร์จแบบไร้สายหรือการชาร์จแบบย้อนกลับ
- ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. หรือช่องเสียบการ์ด microSD
- ไม่มีลำโพงสเตอริโอหรือรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- ไม่มีการเชื่อมต่อ 5G หรือรองรับ NFC
- ราคาแพงไปหน่อย เมื่อเทียบกับโทรศัพท์ระดับกลางอื่นๆ ในสเปคที่ใกล้เคียงกันในท้องตลาด
- ออกมาหลายรุ่นไปหน่อย ทำให้บางคนอาจสับสน เลือกซื้อไม่ถูกและสังเกตถึงความแตกต่างได้ยาก
บทสรุป
Vivo S18 series เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงกึ่งเรือธงรุ่นใหม่ที่นำเสนอคุณสมบัติที่น่าใช้หลายอย่าง เช่น หน้าจอ AMOLED, กล้อง 50 ล้านพิกเซล และระบบชาร์จเร็ว 80W และยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลอันมีประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำงานได้นาน และดีไซน์ที่ดูหรูหราและทันสมัย ซีรีส์ Vivo S18 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือระดับพรีเมียมในราคาที่เอื้อมถึง และมีรุ่นโปร ที่ประสิทธิภาพแรงในราคาถูกกว่าเรือธง
Vivo S18
Vivo S18 ใช้ Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 SoC ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ octa-core 4nm พร้อมคอร์ Cortex-A715 คล็อกที่ 3.0GHz และมี Adreno 720 GPU สำหรับประมวลผลกราฟิก ...

Vivo S18 Pro
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200+ ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ 4nm octa-core พร้อมคอร์ Cortex-X3 คล็อกที่ 3.35GHz และมี GPU Immortalis-G715 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมโดยเฉพาะ ...

Vivo S18e
ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ octa-core ขนาด 4 นาโนเมตร พร้อมคอร์ Cortex-A510 คล็อกที่ 2.0GHz และมี GPU Mali-G610 MC4 สำหรับประมวลผลกราฟิก ทั้งสามรุ่นมี RAM ขนาด 12GB หรือ 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 3.1 ขนาด 256GB หรือ 512GB ...

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น