มีอะไรให้เราได้ตื่นเต็นกันอีกแล้ว เพราะล่าสุด vivo ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดอีกครั้งด้วยมือถือรุ่นใหม่ล่าสุด นั่นคือ vivo V30 Series มากับรุ่นย่อยอย่าง vivo V30 5G และ V30 Pro 5G มีจุดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรม การออกแบบ และความน่าใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง V30 Pro 5G โดดเด่นด้วยกล้องหลัก 3 ตัวที่ได้รับการรับรองจาก ZEISS ภาพถ่ายบุคคลระดับมืออาชีพ และเอฟเฟกต์โบเก้ระดับภาพยนตร์ที่ทำให้ทุกภาพดูมีชีวิตชีวา ตัวเครื่องออกแบบได้ทันสมัยและจอแสดงผลอัตราการรีเฟรช 120Hz ทำให้ V30 ซีรีส์รับชมคอนเทนต์ได้ราบรื่นสบายตา โทรศัพท์ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 และ MediaTek Dimensity 8200 อันทรงพลัง ตามลำดับ ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเล่นเกมและการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ในบทความนี้ เราจะมาเจอลึกแต่ละคุณสมบัติกันอย่างละเอียด พร้อมทั้งสรุปข้อดีและข้อเสียเพื่อช่วยคุณตัดสินใจ
การออกแบบ
vivo V30 5G และ V30 Pro 5G เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง V30 Pro 5G ได้รับการยกย่องว่าเป็นโทรศัพท์ 5G ที่บางที่สุดของ vivo โดยยังคงความจุแบตเตอรี่ 5,000mAh ทั้งสองรุ่นมีหน้าจอโค้ง 3D จับเครื่องได้สะดวกสบายและอัตราการรีเฟรช 120Hz เพื่อประสบการณ์การรับชมเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ
vivo V30 series ที่ชาญฉลาดด้านการออกแบบที่เน้นด้านความสง่างามและนวัตกรรม โดยที่ V30 Pro 5G มีกล้องหลักสามตัวที่ได้รับการรับรองจาก ZEISS ซึ่งรับประกันการถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพด้วยเซ็นเซอร์ 50MP และสไตล์โบเก้ที่หลากหลายซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS การออกแบบของกล้องไม่ใช่แค่ความสวยงามเท่านั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อจับภาพบุคคลที่สดใสและภาพมุมกว้างพิเศษที่กว้างขวาง ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกรอยยิ้มในฝูงชนจะยังคงอยู่
vivo V30 series มีให้เลือกหลายสี อย่างถ้าเป็น V30 5G จะมีสี Shell White, Green Sea และ Night Sky Black ส่วนถ้าเป็น V30 Pro 5G มีให้เลือกเป็นสี Shell White และ Night Sky Black สีเหล่านี้เป็นมากกว่าเฉดสี เป็นภาพสะท้อนของธรรมชาติและบ่งบอกถึงสไตล์ที่ตั้งใจออกแบบมาอย่างดี V30 5G และ V30 Pro 5G ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น เป็นอุปกรณ์เสริมที่เสริมสไตล์ส่วนตัวของผู้ใช้ ในขณะเดียวกันก็มอบประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อสู่โลกการสื่อสารระดับสูงสุด
ประสิทธิภาพ
V30 Pro 5G ซึ่งขับเคลื่อนโดย MediaTek Dimensity 8200 SoC เป็นขุมพลังประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อจัดการทุกอย่างตั้งแต่งานประจำวันไปจนถึงแอปพลิเคชันที่มีความต้องการการประมวลผลมากที่สุดได้อย่างง่ายดาย ด้วย RAM สูงสุด 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 512GB ผู้ใช้จึงสามารถใช้งานกับประสบการณ์มัลติทาสก์ที่ราบรื่นโดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่จะเต็ม
V30 5G แม้จะมีชิปเซ็ตที่แตกต่างกัน คือ Snapdragon 7 Gen 3 แต่ก็ไม่ได้ช้าในด้านประสิทธิภาพแต่อย่างใด ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การโต้ตอบที่ราบรื่นและตอบสนองในการใช้งานต่างๆ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับความสามารถ 5G ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความเร็วอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วเป็นพิเศษ ทำให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ การสตรีมหนังที่มีความคมชัดสูง และอื่นๆ อีกมากมาย การใช้งานแบตเตอรี่เป็นอีกไฮไลท์หนึ่ง โดยอุปกรณ์ทั้งสองมีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh เสริมด้วยการรองรับการชาร์จแบบมีสาย 80W ความจุขนาดนี้รับประกันเวลาการใช้งานที่ยาวนานขึ้นและการชาร์จใหม่อย่างรวดเร็ว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้
สำหรับผู้ชื่นชอบการเล่นเกม จอแสดงผล 120Hz AMOLED บนอุปกรณ์เหล่านี้มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลสบายตา ด้วยสีสันที่สดใสและรายละเอียดที่คมชัดที่ทำให้เกมมีชีวิตชีวา อัตราการรีเฟรชที่สูงช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกการกระทำจะถูกบันทึกด้วยความแม่นยำ ให้ความได้เปรียบในสถานการณ์การเล่นเกมที่รวดเร็ว โดยพื้นฐานแล้ว vivo V30 5G และ V30 Pro 5G ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการการใช้งานโทรศัพท์มือถือประสิทธิภาพระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเล่นเกม การสร้างเนื้อหา หรือเพียงเพื่อการเชื่อมต่อโซเชียลมีเดีย สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นเหล่านี้โดดเด่นในตลาดระดับกลางที่มีการแข่งขันสูงตอนนี้
จอแสดงผลและแบตเตอรี่
vivo V30 5G และ V30 Pro 5G ยกระดับประสบการณ์สมาร์ทโฟนด้วยคุณสมบัติจอแสดงผลและแบตเตอรี่ที่โดดเด่น จอแสดงผลของ V30 Pro 5G เปรียบเสมือนงานแสดงภาพ ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่ทำให้เนื้อหาดูมีชีวิตชีวาด้วยสีสัน 1 พันล้านสี และรองรับ HDR10+ ด้วยความสว่างสูงสุดที่ 2800 nits จอแสดงผลจึงให้ความคมชัดอันน่าทึ่งแม้ในแสงแดดจ้า อัตรารีเฟรช 120Hz ช่วยให้การเลื่อนและแสดงผลภาพเคลื่อนไหวราบรื่น ช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเล่นเกม เล่นโซเชียลมีเดีย หรือใช้งานแอปต่างๆ
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนยุคใหม่ และซีรีส์ V30 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โทรศัพท์แต่ละรุ่นมีแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้เต็มวันโดยไม่ต้องหยิบที่ชาร์จอีก การรองรับการชาร์จแบบมีสาย 80W เป็นตัวเปลี่ยนเกม โดยการชาร์เร็ว ทำให้โทรศัพท์กลับมามีแบตเต็มได้ในเวลาไม่นาน คุณสมบัตินี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางตลอดเวลาและต้องการอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ซึ่งสามารถตามไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งวุ่นวายของพวกเขาได้สบายๆ
โดยสรุปแล้ว สเปกจอแสดงผลและแบตเตอรี่ของ vivo V30 5G และ V30 Pro 5G ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความคาดหวังสูงของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ตั้งแต่หน้าจอที่ยอดเยี่ยมและอัตราการรีเฟรชสูงไปจนถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานและมีระบบชาร์จเร็ว เหล่านี้รับประกันว่าผู้ใช้สามารถใช้มือถือได้ตลอดทั้งวัน
กล้องถ่ายภาพ
vivo V30 series กำหนดนิยามใหม่ของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนด้วยระบบกล้องที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง V30 Pro 5G ที่เป็นที่ชื่นชอบของช่างภาพ โดยมีกล้องหลัก 3 ตัวที่ได้รับการรับรองจาก ZEISS ซึ่งรับประกันการถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ เซ็นเซอร์หลัก 50MP ที่มีความยาวโฟกัส 50 มม. ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับการมองเห็นของมนุษย์ ทำให้ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติและสมจริง ความสามารถในการซูม 2 เท่าช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถจับภาพวัตถุที่อยู่ห่างไกลได้อย่างคมชัดสดใส
กล้องของ V30 Pro 5G ประกอบด้วยกล้อง AF Ultra Wide-Angle มุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 50MP ที่ให้มุมมองภาพ 119° ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่หรือผู้คนกลุ่มใหญ่โดยไม่พลาดแม้แต่รอยยิ้มเดียว ตัวเลือกโบเก้สไตล์ ZEISS ที่หลากหลาย เช่น Biotar, Planar, Distagon, Sonnar และ Cinematic ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มสัมผัสทางศิลปะให้กับภาพถ่ายบุคคลของตน โดยเลียนแบบเอฟเฟกต์ของเลนส์ ZEISS แบบคลาสสิก
นอกจากนี้ vivo V30 series ยังมีเซ็นเซอร์ระดับสูงสุด 1/1.55 นิ้วสำหรับความไวแสงระดับเรือธง ช่วยให้มั่นใจได้ว่าภาพที่สว่างและมีรายละเอียดแม้ในสภาพแสงน้อย คุณสมบัติ OIS (Optical Image Stabilization) ช่วยรักษาเสถียรภาพของภาพ ลดความเบลอ และปรับปรุงคุณภาพของถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเซลฟี่ V30 Pro 5G มาพร้อมกับกล้องเซลฟี่กลุ่ม AF Group Selfie ความละเอียด 50MP ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกใบหน้าในเฟรมจะถูกบันทึกด้วยรายละเอียดที่คมชัด มุมมองที่กว้าง 92° ของกล้องทำให้ง่ายต่อการรวมกลุ่มเพิ่มเติมในแต่ละ Shot เหมาะสำหรับการถ่ายเซลฟี่เป็นกลุ่มหรือการจับภาพฉากที่กว้างขึ้น
V30 Pro 5G ยังแนะนำคุณสมบัติที่ปรับแต่งมาสำหรับ vlogger เช่น Vlog Movie Creator ซึ่งช่วยให้กระบวนการสร้างวิดีโอง่ายขึ้นด้วยเทมเพลตการถ่ายภาพ การปรับปรุงภาพบุคคลระดับมืออาชีพ และการสร้างวิดีโอด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ชุดเครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้ใช้สร้างวิดีโอบล็อกคุณภาพระดับมืออาชีพได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายอะไรอีกต่อไป โดยพื้นฐานแล้ว ระบบกล้องของ vivo V30 5G และ V30 Pro 5G ไม่ใช่แค่การจับภาพของบางช่วงเวลาเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความทรงจำด้วยความแม่นยำและมีสไตล์ ด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ vivo ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการถ่ายภาพบนมือถือ โดยนำเสนอเครื่องมือให้ผู้ใช้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และบันทึกช่วงเวลาของชีวิตของผู้คนด้วยรายละเอียดที่น่าทึ่ง
การเชื่อมต่อ ซอฟต์แวร์ และระบบเสียง
vivo V30 5G และ V30 Pro 5G ไม่ใช่เด่นแค่การถ่ายภาพและเครื่องทำงานเร็วด้วยชิปแรงๆ เท่านั้น ยังเป็นเลิศในด้านการเชื่อมต่อ ซอฟต์แวร์ และระบบเสียงอีกด้วย เหล่านี้จะรับประกันผู้ใช้จะได้ประสบการณ์ที่ราบรื่นและใช้งานง่าย ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดตอนนี้เลย
การเชื่อมต่อ: vivo V30 series มาพร้อมกับเทคโนโลยี 5G ที่ล้ำสมัย ช่วยให้ดาวน์โหลดและอัพโหลดได้เร็วขึ้น เวลาแฝงต่ำลง และการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้มากขึ้น ด้วยการรองรับความถี่เครือข่ายที่หลากหลาย สามารถครอบคลุมและความเข้ากันได้ในพื้นที่ต่างๆ อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ V30 Pro 5G ยังมี NFC สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและการถ่ายโอนข้อมูล ในขณะที่ทั้งสองรุ่นมี Bluetooth 5.3 สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายที่เสถียร
ซอฟต์แวร์: vivo V30 series ทำงานบน Android 14 มีอินเทอร์เฟซที่สะอาดตาและใช้งานง่ายพร้อม Funtouch OS 14 สกินแบบกำหนดเอง เพิ่มความสะดวกสบายและการปรับแต่งอีกชั้นหนึ่ง ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งประสบการณ์ของตนเองด้วยสไตล์ที่แตกต่างกัน ความมุ่งมั่นของ Vivo ในเรื่องอายุการใช้งานที่ยืนยาวของสมาร์ทโฟนนั้นเห็นได้ชัดจากการรับประกัน ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น 50 เดือน โดยสัญญาว่าอุปกรณ์ต่างๆ จะยังคงการทำงานที่ลื่นไหลได้นานกว่าสี่ปี
ระบบเสียง: แม้ว่า V30 Pro 5G จะไม่มีแจ็คหูฟัง 3.5 มม. แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อประสบการณ์การใช้งานและคุณภาพเสียง การไม่มีแจ็คถูกชดเชยด้วย audio playback codec คุณภาพสูง ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้สามารถฟังเพลงและฟังเสียงจากสื่อต่างๆ ได้อย่างคมชัดและมีความลึก อุปกรณ์รองรับรูปแบบเสียงที่หลากหลาย สำหรับผู้รักเสียงเพลงและใช้งานทั่วๆ ไป
สรุปข้อดีและข้อเสียของ vivo V30 5G และ V30 Pro 5G
- ข้อดี:
- การออกแบบตัวเครื่องที่สวยงาม ทั้งสองรุ่นมีรูปทรงเพรียวบางและทันสมัยที่สะดุดตาและถือได้สะดวก
- จอแสดงผล AMOLED ที่สว่าง มีชีวิตชีวาด้วยสีสันที่หลากหลายและสีดำที่เข้มลึก
- รองรับระดับ IP54 มีการป้องกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น ทำให้มือถือทนทานยิ่งขึ้น
- กล้องที่ดีมากๆ จากความร่วมมือกับ Zeiss ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการถ่ายภาพคุณภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX920 ความละเอียด 50MP ของ vivo V30 Pro
- ข้อเสีย:
- ไม่มีการอัปเกรดชิปเซ็ตจากรุ่นก่อน ผู้ใช้อาจคาดหวังว่าชิปเซ็ตล่าสุดจะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า แต่ซีรีส์นี้ไม่มีโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดอย่างที่คาดหวังไว้
- ไม่มีช่องเสียบการ์ด MicroSD พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ขยายไม่ได้อาจเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มความจุเพื่อจุดประสงค์ด้านความบันเทิงหรือเพื่อใช้ทำงาน
- แอปที่ไม่ได้ต้องการหรือ Bloatware ติดมากับเครื่องนิดหน่อย แอปที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าบางแอปอาจไม่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทุกคนและสามารถใช้พื้นที่เก็บข้อมูลอันมีค่าของเราไปโดยเปล่าประโยชน์
- ไม่รองรับมาตรฐานระดับ IP68 แม้ว่าอุปกรณ์รองรับมาตรฐาน IP54 แต่ก็ไม่สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับที่สูงกว่า ซึ่งอาจจะพบได้ในมือถือจากยี่ห้อคู่แข่งบางราย
vivo V30 (12+256GB) Green Sea (5G), Screen Size: 6.78 inch, Chip: Snapdragon 7 Gen 3
Display Resolution : Resolution : 2800x1260 Amoled (1.5K), Memory: RAM 12GB / ROM 256GB, Front Camera: 50MP, Back Camera: 50MP (Main) + 50MP (Ultrawide) ...

vivo V30 Pro (12+512GB) Shell White (5G), Screen Size: 6.78 inch, Chip: MediaTek Dimensity 8200
Display Resolution : 2800x1260 (FHD+) AMOLED, Memory: RAM 12GB / ROM 512GB, Front Camera: 50MP, Back Camera: 50MP (Main) + 50MP (Ultrawide) + 50MP ( Telephoto) ...

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น