Magsafe คืออะไร ดีไหม จำเป็นสำหรับ iPhone แค่ไหน ควรซื้อไหม

ช่วงหลัง ๆ Apple เริ่มออกอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ใช้ iPhone ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไว้ให้เป็นทางเลือกในการใช้งาน อย่างการชาร์จไฟให้กับ iPhone ของเราก็เช่นกัน มีที่ชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก ดูดติดกับด้านหลังเครื่องได้เลย มาในชื่อ Magsafe เป็นจานแม่เหล็กกลม ๆ มีสาย USB-C ไว้เสียบกับหัวชาร์จ ซึ่งเค้าขายแยกกันนะ คือถ้าซื้อมาจะมีแต่จานแม่เหล็กและสายเท่านั้น หัวชาร์จต้องซื้อแยก

อะไรคือ Magsafe

ถ้าจะให้นิยามก็พอสรุปได้ว่า Magsafe ก็คือ ที่ชาร์จไร้สายแบบมีแม่เหล็กดูดประกบกับตัวอุปกรณ์ที่จะชาร์จได้ อันนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ไม่ให้อุปกรณ์เลื่อนหลุด และวางตำแหน่งชาร์จที่เหมาะสมได้แม่นยำตรงจุดนั่นเอง Magsafe นั้นออกแแบบมาเพื่อ iPhone 12, 12 mini, 12 Pro และ 12 Pro Max โดยเฉพาะ (รวมถึง iPhone รุ่นใหม่ ๆ ในอนาคตด้วย) เรียกว่าถ้าเอามาแปะก็พอดิบพอดีเลยล่ะ แต่ไม่ใช่แค่นั้น Magsafe ยังรองรับระบบชาร์จแบบ Qi ด้วย นั้่นทำให้สามารถนำมาชาร์จแบบไร้สายให้กับ iPhone 8 และรุ่นใหม่กว่านั้นได้ เพียงแต่อาจจะไม่ดูดติดแน่นเหมือน iPhone 12 เท่านั้นเอง นอกจากนั้น โทรศัพท์มือถือแล้ว อุปกรณ์เสริมอย่างพวกหูฟังก็สามารถนำมาชาร์จได้ด้วยเช่นกันอย่าง AirPods และ AirPods Pro สรุปคือถ้าอุปกรณ์นั้นรองรับระบบ Qi ก็เอาชาร์จกับ Magsafe ได้ทั้งนั้น

Magsafe ใช้งานยังไง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพึงเข้าใจด้วยว่าตัวของ Magsafe นั้นจะใช้สายแบบ USB-C เวลาคุณจะใช้มันชาร์จอะไรคุณก็ต้องหาตัวชาร์จ (อะแดปเตอร์แปลงไฟ) ที่เป็น USB-C ด้วย ซึ่งทาง Apple ก็แนะนำให้ใช้ อะแดปเตอร์ ขนาด 20 วัตต์ (ขายแยกนะ ไม่ให้มาในกล่อง) อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะเอาสาย Magsafe ไปเสียบกับ Macbook หรือโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ต USB-C ก็ชาร์จได้เช่นกัน แต่จะชาร์จช้ากว่าการใช้อะแดปเตอร์อยู่พอสมควรเลย

ถ้า iPhone ใส่เคส จะนำมาชาร์จกับ Magsafe ได้มั้ย

เดี๋ยวนี้มีเคส iPhone ที่ออกแบบมาให้ไม่ขัดขวางการนำเอา Magsafe มาดูดติด โดยเฉพาะเคสสำหรับ iPhone 12 ก็ไม่มีปัญหา มันก็จะดูดติดแน่นเลย สังเกตเคสที่รองรับจะมีแถบวงกลมให้ติดแปะด้านหลังเครื่องพอดีเลย แต่กรณีถ้าคุณใช้เคสที่ไม่รองรับ Magsafe จริง ๆ ก็สามารถชาร์จได้ปกติ เหมือนชาร์จไร้สายทั่วไป เพียงแต่ Magsafe อาจจะไม่ดูดติดหรือดูดติดไม่แน่นเท่านั้นเอง

Magsafe ราคาเท่าไร

MagSafe มีหลายรุ่นและราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์: MagSafe Battery Pack ราคาประมาณ 3,000 บาทในไทย โดยราคาหิ้วอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท, MagSafe Charger ราคาประมาณ 1,990 บาท, เคส MagSafe สำหรับ iPhone ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,510 บาท, อุปกรณ์ชาร์จไร้สาย MagSafe เช่น 20W 2-in-1 MagSafe QC Wireless Charger ราคาอยู่ที่ประมาณ 699 บาท ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามร้านค้าและโปรโมชั่นที่มีอยู่ในขณะนั้น

Magsafe ดีไหม จำเป็นสำหรับ iPhone แค่ไหน ควรซื้อไหม

ถ้าคุณกำลังใช้ iPhone อยู่ตอนนี้ คุณอาจจะมีคำถามว่าแล้วเจ้า Magsafe มันจำเป็นแค่ไหน เหมาะกับการใช้งานรูปแบบใด และสถานะการณ์ไหน ตอบง่าย ๆ แบบนี้ว่า Magsafe นั้นก็คือที่ชาร์จแบบ wireless ดี ๆ นี่เอง รุ่นปัจจุบันน่าจะมีกำลังไฟ 15W แค่มีแม่เหล็กเพิ่มเข้ามา ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน แต่การชาร์จจะช้ากว่าพวกอะแดปเตอร์ 20W อยู่พอสมควรแน่นอน ไม่เหมาะกับการใช้เป็นที่ชาร์จตัวหลัก ยกเว้นเวลาเราไปตามร้านกาแฟ หรือวางชาร์จทั้งคืนก่อนนอนอะไรแบบนั้น ความคิดเห็นส่วนตัว ถามว่าดีไหม เราก็ว่าดี ถามว่าคุ้มกับราคาไหม เราว่าไม่คุ้มสักเท่าไร ไม่ถึงกับจำเป็น ราคาแพง แล้วก็ชาร์จช้ากว่าอะแดปเตอร์ด้วย เรื่องชาร์จนานมากเป็นสิ่งที่คุณต้องรับรู้ไว้ก่อน บางคนซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้เลย เพราะระหว่างวันไม่มีชาร์จโทรศัพท์เพิ่มอะไร อยู่ได้ตลอดวัน ชาร์จตอนกลางคืนครั้งเดียว ใช้สายชาร์จอะแดปเตอร์ของเดิม ๆ ก็พอแล้ว

แต่ข้อดีของ Magsafe ก็คือ มันเป็นอีกวิธีหนึ่งเป็นทางเลือกในการชาร์จให้กับเรา รูชาร์จก็ไม่เป็นรอย ตัวแม่เหล็กมันก็จะดูดที่หลังเคสเลย ไม่หลุดไปไหน เหมาะกับคนขี้เกียจเสียบสาย มันสะดวกดีเพราะเป็น Wireless ไร้สาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของใครหลายคน ทางที่ดีแนะนำให้ลองใช้ด้วยตัวเองดู อาจจะยืมเพื่อนหรือคนรู้จักมาลองชาร์จดูก่อน ก็จะรู้ อาจจะโดนใจคุณก็ได้ แล้วค่ยอตัดสินใจซื้อ มันมีแบบเคสหนังด้วย ภาพลักษณ์หน้าสวยงาม ทันสมัย ดูหรูหรา ถ้าคนนั่งโต๊ะทำงาน หยิบ MagSafe มาใช้บ้าง วางบ้างคือสะดวกมาก ๆ ไม่ต้องถอดสาย เสียบสายไปมา ที่ทำงานคือโอเคเลย แต่ถ้าที่บ้าน เล่นโทรศัพท์ไปชาร์จไปบ้าง จะยกขึ้นมาทั้งแท่นคงจะแปลก ๆ เลยใช้ที่ทำงานหรืออยู่ข้างนอกอย่างเดียว แต่อาจมีเสียงบ่นเรื่องใช้แล้วเคสเป็นรอย อยากให้ลองใช้ด้วยตัวเองดู ชอบไม่ชอบใครก็ตอบแทนเราไม่ได้

เล่นเกมไปด้วย ชาร์จ iPhone ด้วย Magsafe ไปด้วยได้ไหม

มีหลายคนทำอย่างนี้ คือ เอามาใช้ระหว่างเล่นเกม เครื่องจะร้อนมากน้อยแค่ไหน คุ้มไหมถ้าจะซื้อมาใช้ นอกจากเรื่องความร้อน บางคนยังบอกว่าช็อตมือด้วยเวลาเล่น (อันนี้ไม่แน่ใจ น่าจะแล้วแต่คน) แต่อุปสรรคหลักก็คือ Magsafe นั้นชาร์จช้าเกินไป ปกติ 3 ชั่งโมง ถึงจะเต็ม ถ้าเล่นเกมไปด้วยนี่ไม่น่าจะชาร์จขึ้น

Magsafe ใช้ไปแล้วร้อน แบบนี้ปกติไหม + ใช้แล้วเคสเป็นรอย

หลายคนพอได้ลองใช้ ๆ ไป พบว่า ทำไมรู้สึกร้อน แบบนี้มันปกติ รึเปล่า ... ความร้อนระหว่างชาร์จ Magsafe เกิดขึ้นไปปกติ ซึ่งเอาเข้าจริง Wireless Charger ทุกรุ่นก็ร้อนหมดแหละ พวกนี้เป็นการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของสนามแม่เหล็กที่มีขดลวดอยู่ข้างใน เกิดการถ่ายเทพลังงาน เลยทำให้การชาร์จไร้สายเกิดความร้อน ซึ่งก็คงไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราเท่าไหร่ ในระยะยาว เครื่องร้อน แบตร้อน แบตก็ไปไว ถ้าจะให้ดี ก็ชาร์จทิ้งไว้ในห้องแอร์ การถ่ายเทความร้อนก็จะดีขึ้น อีกปัญหาที่มากับความร้อนก็คือ เป็นรอย โดยเฉพาะ iPhone ที่ไม่ใส่เคส รู้สึกได้เยอะมาก ว่าบอดี้มันร้อน ยิ่งถ้าติดฟิล์มรอบตัวเครื่องด้วยแล้ว ผลคือ ฟิล์มก็อาจจะเป็นรอยด้วยได้ แม้แต่ใส่เคสชาร์จ ก็มีเสียงบ่นหลายรายว่าเคสเป็นรอยด้วยเช่นกัน ดังนั้น ถ้ารีบควรใช้สายเสียบเเทน เพราะเเบบสายมันร้อนน้อยกว่า เเล้วก็เเบตเตอรี่ขึ้นไวกว่าด้วย

MagSafe Battery Pack คืออะไร

อีกทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ iPhone ที่ต้องการแบตเตอรี่สำรองเพื่อใช้งานในระหว่างวัน โดยเฉพาะเมื่อไม่สามารถชาร์จไฟได้จากแหล่งอื่น

MagSafe Battery Pack คืออุปกรณ์เสริมจาก Apple ที่ออกแบบมาเพื่อให้การชาร์จแบตเตอรี่ของ iPhone เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยมีคุณสมบัติหลักดังนี้:

ความจุแบตเตอรี่ 1,460 mAh ซึ่งสามารถชาร์จ iPhone ได้ประมาณ 40-70% ขึ้นอยู่กับรุ่นของ iPhone ที่ใช้, MagSafe Battery Pack สามารถชาร์จ iPhone ได้ด้วยพลังงานสูงสุด 15W เมื่อเชื่อมต่อผ่านสาย Lightning จะสามารถชาร์จได้เต็มที่ที่ 20W, มีแม่เหล็กที่ช่วยให้ติดกับ iPhone ได้อย่างมั่นคง และการใช้งานง่ายเพียงแค่แปะที่ด้านหลังของ iPhone, เหมาะสำหรับการชาร์จในระหว่างการเดินทาง โดยไม่ต้องพกสายชาร์จเพิ่มเติม สามารถชาร์จ AirPods ได้ด้วย, มีการแจ้งเตือนสถานะการชาร์จบนหน้าจอ iPhone เมื่อเชื่อมต่อกับ MagSafe Battery Pack

DIGITRV

ค้นหาบล็อกนี้