Xiaomi 14 Ultra นี่มือถือหรือกล้องกันเนี่ย! สรุปข้อดีข้อเสีย

นี่ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ ไม่มีอะไรเหนือกว่านี้อีกแล้ว มาพร้อมกับกล้อง 5 ตัวที่ยอดเยี่ยมสุดๆ จึงเรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวเก่งแห่งยุคนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อมองในภาพกว้าง นี่เป็นเวลานานที่ไม่ได้พบสิ่งพิเศษเช่นนี้ในตลาดสมาร์ทโฟนที่แน่นขนัดไปด้วยมือถือรุ่นต่างๆ มากมาย นับเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง แต่ก็ดีใจที่เวลานี้ได้มาถึงแล้ว Xiaomi 14 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงระดับท็อปสุดของ Xiaomi ได้วางจำหน่ายในเมืองไทยแล้วตอนนี้ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์สมาร์ทโฟนระดับสูงสุด นี่อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหามานานอย่างแน่นอน ในบทความนี้ผมจะมารีวิว Xiaomi 14 Ultra โดยละเอียด พร้อมทั้งสรุปข้อดีและข้อเสีย เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อของคุณต่อไป

อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องเป็นคนชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นพิเศษ และหากเป็นเช่นนั้น สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะเป็นความฝันของคนรักการถ่ายภาพอย่างคุณอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพเสริม ซึ่งจะทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถแข่งขันกับกล้องมิเรอร์เลสระดับกลางได้อย่างสบายๆ เลยทีเดีย กับราคาประมาณสี่หมื่นบาท ถือว่าแพงมากสำหรับการซื้อสมาร์ทโฟน คุณจึงต้องมั่นใจว่ามีกำลังซื้อเพียงพอ แต่หากสามารถซื้อได้ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์และความสามารถอันน่าประทับใจ ตั้งแต่ความสามารถการถ่ายภาพสุดเหนือ จอภาพสวยงาม และระบบชาร์จแบตเตอรี่เร็วแบบด่วนสุดๆ สมาร์ทโฟน Xiaomi 14 Ultra อาจไม่สมบูรณ์แบบเหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น แต่มันก็น่าจะทำให้ค่ายสมาร์ทโฟนชั้นนำอย่าง Apple, Samsung และ Google ต้องสั่นสะเทือนกลัวการเสียส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับมือถือระดับท็อปบนสุดของตลาดอย่างแน่นอน

สรุปข้อดีและข้อเสียของ Xiaomi 14 Ultra

ข้อดี
- ประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่สุดยอดมากๆ
- ตัวเครื่องออกแบบมาเป็นหนังวีแก้นที่น่าใช้และดูหรู
- หน้าจอโค้งสวยงาม
- ชาร์จเร็วมากๆ อยู่ที่ 90W
- เครื่องทำงานเร็วมาก ประสิทธิภาพแรงอันดับต้นๆ ด้วยชิปเช็ตตัวท็อปที่สุดตอนนี้
ข้อเสีย
- ราคาแพงไปหน่อย
- แม้ว่ากล้องจะสุดยอด แต่ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป ไม่ได้ต้องการกล้องถ่ายรูประดับโปรอะไร นี่อาจเกินความจำเป็นกับราคาที่ต้องจ่าย
- ซอฟต์แวร์ HyperOS ขาดนวัตกรรมและทั่วๆ ไป

ตัวเครื่องและการออกแบบ

Xiaomi 14 Ultra ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้ใช้งานกล้องถ่ายแบบคลาสสิกอย่างที่เราคุ้นเคยมาโดยเฉพาะ โดยมีโมดูลกล้องทรงกลมและฝาครอบที่มีพื้นผิว มันเป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตั้งใจการออกแบบตามคอนเซ็ปท์ "Ultra" โดยเฉพาะ โดยมีส่วนสำคัญที่ยกมาจากโมดูลกล้องขนาดใหญ่มาอยู่ที่ด้านหลังของตัวมือถือ การออกแบบลักษณะแบบนี้แม้ว่าจะเพิ่มน้ำหนักและสร้างความรู้สึกใหญ่เทอะทะแล้ว แต่ก็เพิ่มความพรีเมี่ยม ทำให้เป็นโทรศัพท์มือถือที่ดูหรูหรา และยังมีการออกแบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วย เช่น มีที่วางนิ้วของผู้ใช้อย่างเป็นธรรมชาติ เป็นการช่วยในการรองรับการใช้งานโทรศัพท์

เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ จะพบว่า Xiaomi 14 Ultra มีขนาดเล็กและเบากว่าเล็กน้อย โดยมีขนาด 161.4 x 75.3 x 9.2 มม. และน้ำหนักเริ่มต้นที่ 219.8 กรัม ซึ่งน้อยกว่า Samsung Galaxy S24 Ultra โดย Xiaomi นำเสนอโทรศัพท์รุ่นนี้ในตัวเลือกสองสี ได้แก่ สีดำหรือสีขาว ซึ่งทั้งสองสีมีฝาหลังเป็นหนังวีแก้น 'นาโนเทคโนโลยี' ที่ให้รูปลักษณ์และความรู้สึกระดับพรีเมียม ความทนทานของวัสดุนี้เมื่อเวลาผ่านไปยังคงต้องดูต่อไปว่าจะใช้งานได้ทนและยาวนานแค่ไหน แต่คาดว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเลือกใส่เคสป้องกันในที่สุดอยู่แล้ว

Xiaomi ให้เคสพลาสติกแข็งไว้กับโทรศัพท์ไว้ด้วย ซึ่งแตกต่างจากเคสซิลิโคนทั่วไปที่ผู้ผลิตรายอื่นจัดหาให้ แม้ว่าเคสนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโทรศัพท์ได้ดี แต่ผู้ใช้บางคนอาจชอบสัมผัสของโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยมากกว่า ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใส่เคสเลย ตัว Xiaomi 14 Ultra เอง ก็มีการป้องกันอยู่บ้าง นั่นก็คือ มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยมาตรฐานระดับ IP68 ซึ่งรับประกันได้ว่ามือถือจะสามารถกันฝุ่นและน้ำได้ ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับโทรศัพท์รุ่นเรือธงที่มีราคาสูงๆ ในตลาดตอนนี้

อีกทั้งโครงสร้างของ Xiaomi 14 Ultra สร้างขึ้นจากอะลูมิเนียมความแข็งแรงสูง '6M42' ใหม่ และด้านหน้ามีกระจก Shield Glass ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Xiaomi ซึ่งกล่าวกันว่าทำจากวัสดุชนิดใหม่ที่เชื่อมต่อกันผ่านกระบวนการเผาผนึกที่อุณหภูมิสูง เมื่อรวมกับแผ่นหนังวีแก้นแล้ว ส่วนประกอบเหล่านี้ Xiaomi เรียกว่า Guardian Structure มีส่วนทำให้โทรศัพท์มีความทนทานโดยรวม

ความทนทานของ Shield Glass นั้นประเมินได้ยากหากไม่มีการใช้งานในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Xiaomi ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาจากโรงงานเลย ซึ่งสิ่งนี้มีรอยขีดข่วนค่อนข้างมากในช่วงสองสามสัปดาห์ของทดสอบกับโทรศัพท์ นี่อาจทำให้ฟิล์มกันรอยหน้าจอถูกผู้ใช้ถอดออกเร็วกว่าปกติในภายหลัง ส่งผลให้กระจกชิลด์สึกหรอในการใช้งานจริงทุกวันในเวลาต่อมาได้

โดยรวมแล้ว Xiaomi 14 Ultra โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เหมือนกล้องถ่ายรูป โครงสร้างที่แข็งแกร่ง และความทนทาน ซึ่งการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงจะเป็นตัวตัดสินในท้ายที่สุด

หน้าจอและระบบเสียง

สมาร์ทโฟน Xiaomi 14 Ultra มีการออกแบบที่ดีที่สุดทั้งสองด้าน ด้วยการออกแบบกระจกโค้งรอบทิศทางอย่างสวยงาม แต่จอแสดงผลสุดล้ำยังคงเป็นแบบแบนราบ ส่วนใหญ่รายละเอียดเกี่ยวกับจอแสดงผลของ 14 Ultra นั้นก็เป็นไปตามคาดสำหรับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงในราคาแพงเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม มีการผสมผสานองค์ประกอบด้านการออกแบบบางอย่างที่ทำให้มันดูแปลกใหม่

Xiaomi 14 Ultra มีกระจกด้านนอกโค้งรอบทิศทางอย่างสวยงาม แต่จอแสดงผลสุดล้ำยังคงเป็นแบบราบเรียบ มันเป็นจอขนาด 6.73 นิ้ว (เล็กกว่า Samsung Galaxy S24 Ultra เพียงเล็กน้อยที่ 6.8 นิ้ว) พร้อมสเปกระดับสูงมากมาย ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี AMOLED ที่มีความละเอียด 522ppi และรองรับ Dolby Vision และ HDR10+, เทคโนโลยี LPTO ทำให้อัตราการรีเฟรชสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ตั้งแต่ 120Hz ลงไปถึง 1Hz เพื่อให้มีประสิทธิภาพการทำงานแบบราบรื่นเมื่อต้องการอัตรารีเฟรชสูง แต่ประหยัดแบตเตอรี่เมื่อไม่จำเป็น

จอแสดงผลยังมีความสว่างสูงมากด้วย มีค่าความสว่างปกติสูงถึง 1,000 นิต และความสว่างสูงสุดทฤษฎี 3,000 นิต เมื่อวัดระดับแสงในสภาพแวดล้อมจริง โดยปิดโหมดปรับความสว่างอัตโนมัติและเปิดโหมดกลางแจ้ง ค่าที่ได้คือ 736 นิต ซึ่งถือว่าน่าประทับใจและสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายในทุกสถานการณ์แม้แต่กลางแจ้งช่วงกลางวันของเมืองไทย

ระบบสแกนนิ้วแนบจอ สแกนได้อย่างแม่นยำดีเยี่ยม และผมชอบที่ตำแหน่งอยู่สูงกว่าในรุ่น Xiaomi 14 ทำให้สะดวกสบายต่อการใช้งานมากขึ้น สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ไม่มีช่องเสียบหูฟัง ซึ่งผมรู้สึกเสียดายในสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่แบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก เพราะในปัจจุบันหูฟังไร้สายก็มีให้เห็นได้ทั่วไป โดย Xiaomi 14 Ultra รองรับรหัสเสียงระดับไฮเอนด์ อาทิ AAC, AptX Adaptive, LDAC และ LHDC 5.0 จึงเพียงแค่ใช้บริการสตรีมมิ่งและหูฟังที่เหมาะสม ก็จะได้เสียงคุณภาพ Hi-Res Audio ทันที ลำโพงสเตอรียอของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้มีคุณภาพดี มีพลังเสียงดังและกว้าง พร้อมให้ประสบการณ์การฟังเสียงแบบจุใจ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง เล่นเกม ดูวิดีโอหรืออื่นๆ

สเปก ประสิทธิภาพ และการเล่นเกม

เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ ในปี 2024 ก็จะพบว่า Xiaomi 14 Ultra มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ภายในตัวเครื่อง คุณจะได้รับหน่วยความจำแรม 16GB ซึ่งมากกว่า Samsung Galaxy S24 Ultra หรือ Pixel 8 Pro เสียอีก แต่สำหรับตลาดในบางประเทศนั้น จะมีตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดเดียวคือ 512GB เท่านั้น

ด้วยความแรงของชิปขนาดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า Xiaomi 14 Ultra มีประสิทธิภาพการทำงานที่แรงและเร็วมากๆ ทำให้ 14 Ultra สามารถรับมือกับงานหนักได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอปหลายๆ แอปพร้อมกัน แก้ไขภาพ สตรีมมิ่งวิดีโอ หรือเล่นเกมหนักๆ ได้อย่างสบาย

เกมระดับท็อปอย่าง Genshin Impact สามารถรันได้อย่างราบรื่น คุณจะสามารถตั้งค่าการเล่นที่ระดับสูงได้โดยไม่มีปัญหา ด้วยระบบระบายความร้อนที่เหนือกว่ารุ่นปกติคือ ระบบ Dual-Channel IceLoop ทำให้อุณหภูมิภายในเครื่องลดลงและระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยสรุป Xiaomi 14 Ultra สามารถรับมือกับงานหนักต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกเหนือจากสเปกด้านประสิทธิภาพแล้ว 14 Ultra ยังมาพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกมากมาย เช่น การรองรับ 5G, Wi-Fi 7 (ในบางตลาด), รองรับ Dual Nano-SIM Card (ไม่รองรับ eSIM), Bluetooth 5.4 แบบคู่ควบ, NFC และแม้แต่ IR Blaster แล้วยังมีฟีเจอร์ IR Blaster ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกมาก สำหรับการปรับระดับเสียงหรือเปิด-ปิดทีวีได้ง่ายๆ เมื่อลูกน้อยของคุณทำรีโมทหายไป

กล้องถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอ

เมื่อพูดถึงกล้องถ่ายภาพของ Xiaomi 14 Ultra แล้ว มันคือกล้องสุดยอดที่ไม่มีที่ติเลย ดังที่คุณอาจคาดหมายไว้จากการอ่านรีวิวนี้ ถ่ายภาพคือจุดเด่นหลักของ Xiaomi 14 Ultra จริงๆ ก็ไม่ควรออกแบบโทรศัพท์มือถือที่มีส่วนนูนสำหรับกล้องใหญ่ขนาดนี้ หากปราศจากสิ่งที่คุ้มค่า แต่ด้วยคุณภาพกล้องของมือถือรุ่นนี้ ก็อาจอธิบายจุดนี้ได้ในตัวของมันอยู่แล้ว และที่นี่มีสิ่งน่าประทับใจ ด้วยกล้องหลังไม่น้อยกว่า 4 ตัว ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Leica นี่จะทำให้ Xiaomi 14 Ultra ถูกนับเป็นมือถือที่สุดยอดด้านการถ่ายภาพที่สุดตัวหนึ่งไปแล้ว

ทั้ง 4 เลนส์มีความละเอียด 50MP เหมือนกับ Xiaomi 14 รุ่นปกติ แต่เมื่อดูสเปกอย่างละเอียด 14 Ultra ก็มีจุดเด่นมากกว่าแค่มีเลนส์เพิ่มขึ้นอีกตัว กล้องหลักถือเป็นความฝันของคนรักการถ่ายภาพ ด้วยระบบกันสั่นภาพแบบออพติคัล เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว และระบบเปิดรับแสงแบบเปลี่ยนค่าต่อเนื่อง f/1.63/2.0/2.8/4.0 เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการ อีกทั้งยังมีกล้องมุมกว้าง กล้องซูมออพติคัล 3.2x และกล้องเพริสกอปสำหรับซูมออพติคัล 5x ทุกตัวใช้เซนเซอร์ Sony IMX858 และเพียงแค่กล้องมุมกว้างเท่านั้นที่ไม่มีระบบกันสั่น

หากคุณคุ้นเคยกับการคำนวณความยาวโฟกัส ระบบกล้องนี้จะให้ค่าเทียบเท่า 12, 23, 75 และ 120 มม. ซึ่งถือเป็นระบบกล้องที่น่าประทับใจมาก โดยความยาวโฟกัสจะแสดงในแอปกล้อง เพื่อให้คุณรู้ว่ากำลังใช้กล้องตัวใด เมื่อพูดถึงแอปกล้อง Xiaomi ได้ทำงานอย่างยอดเยี่ยมเมื่อพิจารณาจากจำนวนโหมดและการตั้งค่าที่มีให้ใช้งาน แอปดูสวยงามและใช้งานง่าย คุณสามารถถ่ายภาพแบบง่ายๆ หรือใช้เวลานานเพื่อปรับแต่งละเอียดต่างๆ รวมถึงการเลือกค่ารูรับแสงสำหรับกล้องหลัก และบันทึกการตั้งค่าไว้ แล้วแต่ความต้องการ

ผมพบว่าคุณภาพการถ่ายภาพของ Xiaomi 14 Ultra นี้สวยงามเกินคำบรรยาย โทรศัพท์สามารถจับแสงอย่างน่าประหลาดใจ จนทำให้ผู้ชมคิดว่าภาพต่างๆ มาจากกล้อง DSLR แบบโปรเฟชชันนัลมากกว่ากล้องในโทรศัพท์ หากคุณไม่แน่ใจว่าควรใช้กล้องตัวใด เครื่องจะเปลี่ยนกล้องให้โดยอัตโนมัติ เช่นภาพมาโคร แต่ผมมักชอบผลลัพธ์จากการเลือกใช้งานกล้องด้วยตนเอง เพราะคุณภาพดีเยี่ยมเสมอกัน จนบางคร้ังคุณอาจจำไม่ได้ว่าใช้กล้องตัวใดถ่ายภาพนี้ นอกจากความแตกต่างระหว่างมุมกว้างและซูมออพติคัล 5x

กล้อง Xiaomi 14 Ultra เทียบได้กับกล้อง DSLR ระดับมืออาชีพ

โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้มีความสามารถในการจับแสงได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้ชมภาพที่ได้จะไม่เชื่อว่ามาจากกล้องโทรศัพท์ แต่คิดว่าเป็นภาพจากกล้อง DSLR ระดับมืออาชีพมากกว่า คุณเกือบจะไม่จำเป็นต้องใช้โหมดถ่ายภาพบุคคลและถ่ายภาพกลางคืน เพราะกล้องมีฟังก์ชันสร้างเอฟเฟกต์ bokeh แบบธรรมชาติ และเซนเซอร์หลักสามารถดูดซับแสงได้ดุจฟองน้ำวิเศษ

ตามคาด กล้องหลักยังคงเป็นกล้องที่ดีที่สุด แต่เลนส์กล้องซูมออพติคัล 2 ตัวก็ทำงานได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยภาพที่มีรายละเอียด สี ค่าแสง และสมดุลแสงขาวที่ดีเยี่ยม คุณสามารถซูมภาพดิจิทัลนอกเหนือจากการซูมออพติคัลระยะ 5 เท่า ไปจนถึง 120 เท่าได้ แต่ที่ระดับนั้นจะยากต่อการควบคุมด้วยมือเปล่าและคุณภาพภาพจะลดลงมากหลังจากซูมประมาณ 30 เท่า ในขณะเดียวกัน กล้องมุมกว้างก็สามารถจับภาพในองศากว้างขึ้น พร้อมคุณภาพระดับสูงโดยแทบไม่มีการบิดเบี้ยวตรงมุมเลย

ผมชอบที่จะถ่ายภาพในโปรไฟล์สี Leica Authentic เพราะใกล้เคียงกับภาพจริงมากที่สุด แต่คุณสามารถสลับไปใช้ Leica Vibrant ที่มุมบนสุดหากต้องการสีสดสันเข้มข้นเหมือนกับโทรศัพท์ของ Samsung ส่วนกล้องหน้าหรือกล้องสำหรับถ่ายเซลฟี่นั้น เป็นกล้อง 32MP (f/2.0) เช่นเดียวกับรุ่น 14 ปกติ มีคุณภาพยอดเยี่ยมและสามารถสลับโหมดระหว่าง 0.8x และ 1x ได้โดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการบันทึกอะไรเข้าในเฟรม

กล้องเซลฟี่มีฟีเจอร์มากมาย รวมถึงโหมดถ่ายบุคคลพร้อมควบคุมความลึก และสามารถบันทึกวิดีโอในระดับ 4K ได้ ด้านหลังสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 8K/30fps ได้เช่นกัน แต่ 4K 60fps (สูงสุด 120fps) น่าจะเหมาะกับสถานการณ์ส่วนใหญ่มากกว่า หากคุณต้องการใช้โหมดวิดีโอสเตเดียหรือวิดีโอสเตเดียโปร คุณจะต้องลดความละเอียดลงเหลือ 1080p แต่ด้วยระบบกันสั่นในกล้องหลัก ผมจึงไม่ได้พบความจำเป็นในการใช้โหมดเหล่านี้

โดยรวมแล้ว Xiaomi 14 Ultra นี่คือสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพในตอนนี้ และผมยังไม่ได้กล่าวถึงชุดอุปกรณ์ถ่ายภาพ ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์การใช้งานกล้องไปอีกขั้น ชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับการถ่ายภาพตัวนี้มีราคาเพิ่มประมาณ 8,266 บาท แต่ส่วนใหญ่ Xiaomi มักจะนำมาจับรวมกับตัวเครื่องโทรศัพท์ มันทำหน้าที่เป็นด้ามจับกล้องหลัก โดยคุณจะต้องสวมเคสก่อนแล้วจึงเลื่อนตัวด้ามเข้าที่ ด้วยตัวเลือกสีดำพร้อมสัมผัสผ้าถักทนทาน มันจึงดูและรู้สึกดีมาก

ด้ามจับเองนอกจากมีปุ่มชัตเตอร์ 2 จังหวะ คันโยกซูม ปุ่มบันทึก และล้อควบคุมที่สามารถปรับแต่งได้แล้ว ก็ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 1,500 mAh เพื่อชาร์จโทรศัพท์ระหว่างใช้งานอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีวงแหวนกล้องสีส้มสวยงามให้ด้วย หรือคุณสามารถติดตั้งฟิลเตอร์มาตรฐาน 67 มม. แทนได้ ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ รวมทั้งสายรัดข้อมือ คุณจึงมีกล้องระดับมืออาชีพในมือ

แบตเตอรี่และการชาร์จไฟ

โทรศัพท์ Xiaomi 14 Ultra มากับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ถือเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนในปี 2024 แม้คุณอาจคาดหวังให้มีขนาดใหญ่กว่าสำหรับสมาร์ทโฟนตัวใหญ่เช่นนี้ แต่ก็เท่ากับ Samsung Galaxy S24 Ultra ดังนั้นจึงชัดเจนว่าพื้นที่และน้ำหนักส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาสำหรับระบบกล้องถ่ายภาพ ในการทดสอบแบตเตอรี่ด้วย PCMark ตามปกติ โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอที่ 200 นิต สมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถใช้งานได้นาน 12 ชั่วโมง 25 นาที ซึ่งถือว่าดีพอสมควร แม้จะไม่โดดเด่นก็ตาม

นี่เป็นด้านเดียวที่ Xiaomi 14 Ultra ไม่ได้โดดเด่นอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ถือว่าแย่ ผมไม่ค่อยมีความกังวลเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งถือว่าดีมาก แบตเตอรี่จะสามารถใช้งานได้ทั้งวันอย่างสบายๆ เว้นแต่คุณจะเล่นเกมหรือบันทึกวิดีโอ 4K อย่างหนัก ผมเคยพบว่าแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน เมื่อใช้งานแบบเบาๆ

ด้านการชาร์จแบตเตอรี่ คุณจะได้รับอะแดปเตอร์ชาร์จ HyperCharge 90W ในกล่อง ซึ่งสามารถชาร์จจากระดับ 0 เป็น 52% ภายในเวลาเพียง 15 นาที หรือ 88% ใน 30 นาที ถือว่ารวดเร็วมาก นับเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นคู่แข่งจาก Samsung และมือถือเรือธงยี่ห้ออื่นๆ ที่มีระบบชาร์จช้ากว่ามากและไม่ได้แถมอะแดปเตอร์ชาร์จในกล่อง อย่างไรก็ตาม การไม่ได้แถมมาให้ถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และคุณอาจมีอะแดปเตอร์ชาร์จที่ใช้งานร่วมกันได้อยู่แล้วที่บ้าน

Xiaomi 14 Ultra ยังรองรับการชาร์จไร้สายความเร็วสูง HyperCharge 80W และการชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ 10W ซึ่งช่วยให้คุณสามารถชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ Qi ได้อย่างง่ายดาย เช่น หูฟังไร้สาย แต่ควรจำไว้ว่าส่วนนูนของกล้องอาจทำให้เกิดปัญหากับการชาร์จไร้สาย เช่น ไม่สามารถชาร์จบนแท่นวาง Pixel Stand 2 ได้ เว้นแต่จะแขวนขอบด้านบนของสมาร์ทโฟนไว้กับแท่นชาร์จโดยใช้ส่วนนูนของกล้องรองรับ

ซอฟต์แวร์และแอป

เช่นเดียวกับรุ่นพี่น้องอย่าง Xiaomi 14 รุ่นปกติ นั่นคือ 14 Ultra ก็ใช้ซอฟต์แวร์ HyperOS เป็นระบบปฏิบัติการ ซึ่ง HyperOS นับเป็น ระบบปฏิบัติการใหม่ของ Xiaomi ที่ทำงานบน Android 14 แต่ถ้าพูดตรงๆ แล้ว HyperOS ก็เพียงการเปลี่ยนชื่อจาก MIUI สกินเดิมของ Xiaomi เท่านั้น โดยรวมแล้ว มันก็ถือเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย มีทั้งสิ่งที่น่าชื่นชอบและไม่ชอบปะปนกันไป

การแยกพานเนลการแจ้งเตือนและการตั้งค่าด่วน ไปทางซ้ายและขวาของรูช่องกล้องหน้า อาจทำให้เกิดความแตกแยกทั้งชอบและไม่ชอบในหมู่ผู้ใช้ เช่นเดียวกับการได้รับอิทธิพลจาก iOS ด้านอื่นๆ เช่นตัวเลือกให้ไม่มี App drawer เริ่มต้น (App drawer คือส่วนที่สามารถหาแอปทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนเครื่อง) คุณจะต้องคุ้นเคยกับการจัดเรียงแอปล่าสุดแบบตาราง และการปิดแอปด้วยการเลื่อนไปด้านข้าง

ปัญหาแอปพรีวิวยังคงเป็นปัญหา แต่ผมเคยเจอกรณีที่แย่กว่านี้มาบ้างแล้ว ไม่มีใครต้องการเว็บเบราว์เซอร์ถึงสาม ใช่แล้ว สามตัว และยังมีแอปอื่นๆ อีกที่คุณอาจต้องการถอนการติดตั้งทันที (ซึ่งก็ทำได้) อย่างไรก็ตาม แอปอย่าง Spotify, TikTok และ Facebook ก็ไม่ได้แย่มากนักในสายตาผม

อีกข้อด้อยคือ ภาพพื้นหลังแบบหมุนเวียนบนหน้าจอล็อกสวยงามเดิมนั้นกลายเป็นโฆษณาเกือบทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ยังมี ฟีดแนะนำเมื่อคุณเลื่อนขึ้นจากหน้าจอหลัก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเวอร์ชันของ Xiaomi สำหรับ Google Discover แต่แย่กว่าล้านเท่า ด้วยลิงก์ไปยังบทความบันเทิงที่ผมไม่สนใจอะไรเลย

ในด้านบวกก็มี นั่นคือ มีฟีเจอร์น่าสนใจบางอย่าง เช่น โหมด GameTurbo เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและลดสิ่งรบกวน และ floating apps ช่วยให้สามารถใช้งานแอปพร้อมกันได้หลายตัว แม้ว่า Xiaomi อาจต้องอธิบายฟีเจอร์เหล่านี้ให้ดีขึ้น หรือแม้แต่การบอกว่ามีฟีเจอร์เหล่านี้อยู่ก็ตาม

ยังมีฟีเจอร์ AI อีกหลายอย่างที่ผมยังไม่ได้ทดสอบ เช่น คำบรรยายภาพเคลื่อนไหวสำหรับวิดีโอคอล และ 'AI Portrait' ที่สามารถสร้างภาพของคุณตามคำสั่งเฉพาะหลังจากที่คุณถ่ายเซลฟี่มากพอ ผมเคยเห็นการทำงานจริงและมันน่าประทับใจมาก หากคุณต้องการสนุกสนานหรือแกล้งว่าคุณไปเที่ยวที่โน่นที่นี่สักแห่ง แทนที่จริงๆ คุณไปเที่ยวสเกกเนสเท่านั้น

Xiaomi สัญญาว่า Xiaomi 14 Ultra จะมีการอัปเดตระบบปฏิบัติการนาน 4 ปี และรับการประกันระบบรักษาความปลอดภัยนาน 5 ปี ซึ่งจนก่อนหน้านี้ถือว่ายอมรับได้ สมาร์ทโฟนจาก Samsung และมือถือเรือธงยี่ห้ออื่นๆ ตอนนี้ให้การสนับสนุนทั้งสองอย่างนี้นานถึง 7 ปี ซึ่งดีกว่ามาก แต่ก็ต้องดูว่าพวกเขาจะสามารถทำตามสัญญาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลา 4-5 ปีก็ถือว่านานพอสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่แล้ว

DIGITRV

ค้นหาบล็อกนี้