Xiaomi Pad 6 ใช้ดีไหม ข้อดีข้อเสียเป็นยังไง

นี่เป็นแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Xiaomi ที่มาพร้อมกับสเปกและประสิทธิภาพระดับสูงในราคาที่คุ้มค่ามากๆ ด้วยตัวเครื่องที่ผลิตจากวัสดุโลหะคุณภาพสูง ทำให้มีน้ำหนักเบาและให้ความรู้สึกพรีเมียม หัวใจหลักของ Xiaomi Pad 6 คือชิปเซ็ต Snapdragon 870 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเรือธงรุ่นก่อนหน้าของ Qualcomm ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถรองรับการใช้งานหนักต่างๆ ได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ดูวิดีโอ ดูหนังสตรีมมิ่ง เปิดแอปหลายตัวพร้อมกัน หรือทำงานออฟฟิศทุกอย่าง นอกจากนี้ Xiaomi Pad 6 ยังมาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 11 นิ้ว ที่มีอัตราเรเฟรชเรท 144Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอรวดเร็วแค่ไหนหรือแสดงคอนเทนต์อะไรก็ลื่นไหลมากไม่มีติดขัด แถมยังรองรับการแสดงผลในระดับพรีเมียมกับการรับชมคอนเทนต์มัลติมีเดียได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของ Xiaomi Pad 6 คือการมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอ 4 ตัว ที่ให้เสียงกระหึ่มและมีมิติชัดเจน เพิ่มความบันเทิงให้กับการดูหนังและเล่นเกมของคุณได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นลำโพงที่ดีที่สุดในหมู่แท็บเล็ตระดับราคาเดียวกัน และด้วยราคาที่คุ้มค่า การออกแบบตัวเครื่องที่หรูหรา ประสิทธิภาพสูง และความบันเทิงครบครัน Xiaomi Pad 6 จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตระดับกลางที่คุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุดในตลาดตอนนี้เลย บทความนี้ ผมจะมารีวิวสเปคในส่วนต่างๆ ของแท็บเล็ตตัวนี้ว่าใช้ดีหรือไม่ดี พร้อมทั้งสรุปข้อดีและข้อเสียว่าเป็นยังไง

Xiaomi Pad 6

จอ LCD ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800) รีเฟรชเรท 144Hz รองรับปากกาสไตลัส, ชิปเซต Snapdragon 870, RAM LPDDR5 : 6GB / 8GB, ความจุ UFS3.1 : 128GB / 256GB, กล้องหลัง : 13MP, กล้องหน้า : 8MP, การเชื่อมต่อ : WiFi, แบตเตอรี่ : 8840 mAh รองรับชาร์จไว 33W, ระบบ Android 13 ครอบด้วย MIUI 14 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Gravity Gray, Gold, Mist Blue ...

Content Cover

ภาพรวมข้อดีและข้อเสียของแท็บเล็ต Xiaomi Pad 6

  • ข้อดี
    • ประสิทธิภาพที่น่าประทับใจในราคาหมื่นต้นๆ
    • คุณภาพตัวเครื่องงานประกอบดีมาก
    • ระบบเสียงที่หนักแน่นและชัดเจน
    • คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่อยากได้แท็บเล็ตระดับกลาง
    • จอแสดงผลดีมาก
    • ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานดีมาก
    • MIUI ที่สะอาดตาดี
  • ข้อเสีย
    • ไม่ได้การันตีการอัปเดต
    • ไม่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
    • ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
    • อุปกรณ์เสริมมีจำกัด

การออกแบบและจอแสดงผล

Xiaomi Pad 6 เป็นแท็บเล็ตดีไซน์สวยงามและพรีเมียม ตัวเครื่องผลิตจากโลหะมันวาว มีให้เลือกสองสีคือ สีเทา Graphite Grey และสีน้ำเงิน Mist Blue ด้วยน้ำหนักเพียง 490 กรัม จึงถือว่าเบากว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 20 กรัม ทำให้จับถือได้สบายมือกว่าเดิม เหมาะสำหรับการพกพาดูคอนเทนต์หรือใช้ทำงานระหว่างการเดินทาง แม้ว่าจะคงดีไซน์โดยรวมเหมือนกับรุ่นปีก่อน แต่ Xiaomi ก็ได้ทำการปรับปรุงในส่วนของการจัดวางพอร์ตและกล้องเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคีย์บอร์ดจะถูกย้ายไปด้านหลังเครื่อง ขณะที่ตำแหน่งกล้องด้านหน้าจะถูกย้ายมาอยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง ทำให้สามารถใช้วิดีโอคอลได้สะดวกมากขึ้นเมื่อหมุนจอในแนวนอน

Xiaomi ยังคงเน้นย้ำความพรีเมียมของ Pad 6 ด้วยการนำวัสดุโลหะมาใช้สำหรับตัวเครื่องทั้งหมด เริ่มจากการย้ายพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคีย์บอร์ดมาอยู่ด้านหลัง ดีไซน์ของกล้องหลังที่มีลักษณะคล้ายกับ Xiaomi 13 Pro เพิ่มลูกเล่นและความโดดเด่นให้กับตัวเครื่อง รวมถึงการลดน้ำหนักตัวเครื่องลงเหลือเพียง 490 กรัม ทำให้จับถือได้สบายมือขึ้น นอกจากนี้ Xiaomi ยังได้นำกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 มาใช้กับจอภาพ พร้อมระดับการกันน้ำมาตรฐาน IP53 เพื่อเพิ่มการป้องกันแท็บเล็ตจากการตกกระแทกหรือเปียกน้ำขณะใช้งานกลางแจ้ง ด้านสเปคหน้าจอ Xiaomi Pad 6 มาพร้อมจอภาพ LCD ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2880x1800 พิกเซล อัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz และความสว่างสูงสุด 550 นิตส์ สามารถแสดงภาพได้คมชัดสมจริงและเหมาะสำหรับการใช้งานทุกด้านได้สบายตาและน่าใช้กว่าเดิม

ประสิทธิภาพและซอฟต์แวร์

หัวใจสำคัญของ Xiaomi Pad 6 คือชิปเซ็ต Snapdragon 870 ซึ่งแม้จะเป็นชิปรุ่นเก่าที่ออกมาแล้วประมาณสองปีและเป็นเพียงการอัปเกรดเล็กน้อยจากชิป Snapdragon 860 ในรุ่น Pad 5 ก่อนหน้า แต่ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปกับแท็บเล็ต เช่น สตรีมมิ่งคอนเทนต์ เล่นโซเชียลมีเดีย หรือเล่นเกมต่างๆ แม้บางครั้งอาจพบปัญหาสะดุดชั่วขณะ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกรุ่นที่มีหน่วยความจำ RAM 6/8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128/256GB ได้ตามความต้องการ โดยขนาด 8/256GB จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานราบรื่นมากยิ่งขึ้น มีพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงพอ และมีราคาแพงกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ด้านซอฟต์แวร์ Xiaomi Pad 6 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ MIUI 14 ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐาน Android 13 โดยระบบปฏิบัตินั้นยังได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับการใช้งานบนแท็บเล็ตโดยเฉพาะด้วย ทำให้แอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Facebook, LINE, X, Gmail เป็นต้น สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี แม้บางครั้งอาจพบปัญหาขนาดตัวอักษรหรือไอคอนที่ใหญ่เกินไปบ้าง, MIUI 14 มีลักษณะที่ค่อนข้างสะอาดตาและปราศจากแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานมากนัก นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์พิเศษช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น โหมดจอลอย ที่ทำให้สามารถเปิดหลายแอปได้พร้อมกัน หรือสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นเช่นโทรศัพท์หรือทีวีผ่านบลูทูธหรือสาย HDMI ได้อย่างง่ายดาย หากซอฟต์แวร์ได้รับการอัปเดตแพตช์รักษาความปลอดภัยและระบบปฏิบัติการหลักอย่างสม่ำเสมอจาก Xiaomi คาดว่า Pad 6 จะสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 3-4 ปี ก่อนจะพิจารณาอัปเกรดซื้อแท็บเล็ตรุ่นใหม่

กล้องถ่ายภาพ

สำหรับกล้องของ Xiaomi Pad 6 นั้น มีทั้งกล้องหลัง 12MP ที่ถ่ายภาพออกมาได้เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การถ่ายภาพวิว ถ่ายภาพคน ถ่ายภาพสถานที่ต่างๆ การสแกนเอกสาร เป็นต้น แต่จะให้ภาพที่ดูดีเมื่อถ่ายในสภาพแสงที่เพียงพอ และคุณภาพจะแย่ลงเมื่อถ่ายในที่มืด ขณะที่กล้องหน้า 8MP แบบมุมกว้างนั้น จะมีมุมกว้างพอให้ใช้งานวิดีโอคอลรองรับห้องเล็กๆ ได้ และมีฟีเจอร์พิเศษชื่อ FocusFrame ที่จะช่วยโฟกัสภาพและจับตามใบหน้าของผู้ใช้อัตโนมัติ แต่ก็ยังใช้งานได้ไม่ดีนักกับแอปบางตัวอย่างเช่น Google Meet

แม้กล้องจะยังไม่ถึงระดับเรียกได้ว่าดีเยี่ยม แต่โดยภาพรวมแล้ว Xiaomi Pad 6 ก็ถือเป็นแท็บเล็ตที่เจ๋งมากๆ และน่าใช้มากๆ สำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตระดับกลางดีๆ ราคาหมื่นต้นๆ นี่คือตัวเลือกเบอร์หนึ่งสำหรับคุณเลย นอกจากนั้นก็ยังมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิงและการทำงาน ถึงแม้จะมีบางจุดบกพร่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นจุดที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่สามารถมองข้ามไปได้

แบตเตอรี่ ปากกาและคีย์บอร์ด

Xiaomi Pad 6 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8,840mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 5-6 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป โดยพบว่าการชมวิดีโอเป็นเวลา 20 นาทีจะทำให้แบตเตอรี่หมดลงประมาณ 4% ขณะที่การเล่นเกมหนักจะทำให้ระดับแบตเตอรี่ลดลงถึง 8% ในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่าตัวเลขจะยังไม่ดีเท่าผลิตภัณฑ์ของ Apple แต่ก็ถือว่าเป็นประสิทธิภาพที่ดีในระดับนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม Xiaomi Pad 6 ก็มีข้อผิดหวังบางประการ เช่น การที่ตัวเครื่องไม่รองรับการใช้งานผ่านเน็ตมือถือ ทำให้ขาดความยืดหยุ่นในการทำงานแบบพกพา รวมถึงคีย์บอร์ดที่มากับเครื่องก็ไม่มีแทร็คพอยท์หรือที่วางมือ จึงต้องใช้นิ้วสัมผัสจอตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องทำงานหนักและเปลี่ยนระหว่างหลายๆ แอปพลิเคชันอยู่เสมอ

อย่างไรก็ดี Xiaomi ก็มีการเสริมอุปกรณ์เสริมบางอย่างที่น่าสนใจ เช่น ปากกา Smart Pen 2 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยการจับยึดกับตัวเครื่อง และใช้งานผ่านบลูทูธ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการวาดรูปหรือจดบันทึกต่างๆ นอกจากนี้ ระบบการชาร์จ 33W ของ Xiaomi Pad 6 ก็ถือว่าทำได้ดีสำหรับผลิตภัณฑ์ในระดับกลาง โดยชาร์จจาก 0 ไปจนเต็มจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แม้จะช้ากว่า OnePlus Pad ที่มีระบบชาร์จ 67W แต่ก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

Xiaomi Pad 6 เล่นเกมดีไหม

จากข้อมูลการทดสอบตามสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับประสิทธิภาพการเล่นเกมของแท็บเล็ต Xiaomi Pad 6 หัวข้อนี้ขอสรุปได้ดังต่อไปนี้ เนื่องจากแท็บเล็ตตัวนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับเรือธงรุ่นเก่าอย่าง Snapdragon 870 แม้ว่าจะเป็นชิปที่มีอายุมากถึง 4 ปีแล้วก็ตาม เนื่องจากชิป 870 นี้เป็นเพียงการอัพเกรดมาจาก 865, 865 Plus เท่านั้น แต่จากการทดสอบกลับพบว่ามันยังคงให้ประสิทธิภาพได้อย่างน่าประทับใจ

เริ่มจากการเล่นเกมฮิต Genshin Impact ที่ตั้งค่าคุณภาพแบบกราฟิกสูงสุดนั้น แท็บเล็ต Xiaomi Pad 6 สามารถให้อัตราเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50 FPS แต่จะมีการดรอปไปถึงระดับ 24 FPS บ้างในบางจังหวะ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่ดีนักสำหรับการเล่นเกม แต่เมื่อลองลดการตั้งค่าลงมาอยู่ที่ระดับกลางหรือเป็นการตั้งค่าที่แนะนำ ประสิทธิภาพกลับกลายเป็นที่น่าพอใจมากขึ้น โดยสามารถคงอัตราเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50 FPS และเมื่อมีการดรอปก็จะลงมาอยู่ที่ระดับ 40 FPS เท่านั้น ซึ่งถือเป็นระดับการเล่นที่สนุกสนานมากกว่าชิปตัวอื่นหลายๆ ตัวในช่วงระดับเดียวกัน นอกจากนี้ ในส่วนของการกระจายความร้อนของ Xiaomi Pad 6 เองก็ถือว่าทำได้ดีเยี่ยม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเพียงแค่ 30 องศาเศลเซียสเท่านั้น เนื่องจากมีพื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ทำหน้าที่ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการทดสอบกับ Genshin Impact ในต่างประเทศยังมีการทดสอบลองเล่นเกมยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile และ PUBG New State บน Xiaomi Pad 6 เครื่องนี้ด้วย โดยในเกม PUBG Mobile นั้น สามารถรันด้วยการตั้งค่า HDR แบบ Extreme Frame Rate ได้อย่างราบรื่น คงอัตรา 60 FPS ตลอดการเล่น ขณะที่เกม PUBG New State กลับสามารถเล่นด้วยอัตราเฟรมเรทสูงถึง 90 FPS โดยไม่พบปัญหาการสะดุดใดๆ สำหรับเกม Call of Duty Mobile นั้น แม้จะเล่นด้วยการตั้งค่ากราฟิกคุณภาพสูงสุดและอัตราเฟรมสูงสุดอยู่ที่ 60 FPS แต่ก็ไม่พบปัญหาการสะดุดเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงเกมกระแสนิยมอีกเกมอย่าง Mobile Legends ที่ได้ลองเล่นด้วยการตั้งค่าอัลตร้ากราฟิกและอัตราเฟรมรีเฟรชสูงถึง 120 FPS นั้น พบว่าในบางช่วงของการเล่น อัตราเฟรมเรทจะมีการดรอปลงมาอยู่ที่ระดับ 110 FPS ซึ่งถึงจะเป็นระดับที่ถือว่ายังดีอยู่ แต่ก็นับว่าเป็นการทำงานที่ยังมีปัญหาบ้างเล็กน้อย โดยสรุปแล้ว แท็บเล็ต Xiaomi Pad 6 กับชิปเซ็ต Snapdragon 870 ก็นับว่ายังคงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกมส่วนใหญ่

ความคิดเห็น