3 แท็บเล็ต ราคาไม่เกิน 10000 บาทที่ดีที่สุด

เมื่อพูดถึงแท็บเล็ตที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท สามรุ่นที่มักถูกพูดถึงในช่วงนี้ก็คือ Galaxy Tab A9+, Redmi Pad SE และ HUAWEI MatePad SE 11" แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่สำหรับดูหนัง หรือความสามารถในการรองรับปากกาสำหรับจดบันทึก การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ถ้าต้องการแท็บเล็ตที่ครอบคลุมทั้งการเรียน ทำงาน หรือดูคอนเทนต์ รุ่นเหล่านี้ตอบโจทย์ได้ดี ราคาที่ตั้งไว้ไม่สูงเกินไปทำให้เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่มองหาอุปกรณ์ในงบประมาณจำกัด การเปรียบเทียบสเปคและคุณสมบัติจึงเป็นเรื่องสำคัญก่อนตัดสินใจ Galaxy Tab A9+ มาพร้อมหน้าจอ 11 นิ้ว RAM 8GB และความจุ 128GB แบตเตอรี่ขนาด 7040 mAh ราคาอยู่ระหว่าง 8,490-8,990 บาท, Redmi Pad SE มีหน้าจอ 11 นิ้วเช่นกัน แต่ RAM 6GB ความจุ 128GB แบตเตอรี่ใหญ่ถึง 8000 mAh ราคาอยู่ที่ 5,990-7,990 บาท, ส่วน HUAWEI MatePad SE 11" หน้าจอ 11 นิ้ว RAM 6GB ความจุ 128GB แบตเตอรี่ 7700 mAh ราคาประมาณ 6,990 บาท และยังรองรับปากกาด้วย การมองหาแท็บเล็ตในราคานี้ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จำเป็น เช่น ขนาดหน้าจอ ความจุ หรืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่คุ้มค่าที่สุด

Samsung Galaxy Tab A9+

ข้อดี:

  • หน้าจอใหญ่ 11 นิ้ว ความละเอียด 1920x1200 อัตรารีเฟรช 90Hz เหมาะกับการดูวิดีโอหรือทำงาน
  • RAM 8GB ทำงานหลายแอปพร้อมกันได้ดี
  • ความจุ 128GB ขยายได้ถึง 1TB ผ่าน microSD เก็บข้อมูลได้เยอะ
  • ชิป Snapdragon 695 ให้ประสิทธิภาพสูง เหมาะกับงานหนัก
  • แบตเตอรี่ 7040 mAh ใช้งานได้นานตลอดวัน
  • มีรุ่น LTE รองรับซิมการ์ด ใช้เน็ตได้ทุกที่

ข้อเสีย:

  • ราคา 8,490-8,990 บาท สูงกว่ารุ่นอื่นในงบ 10,000 บาท
  • กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP คุณภาพไม่สูงมาก
  • น้ำหนักอาจมากกว่ารุ่นอื่นเล็กน้อยจากสเปคที่สูง

Content Cover

Redmi Pad SE

ข้อดี:

  • ราคาถูก 5,990-7,990 บาท เข้าถึงง่ายในงบจำกัด
  • หน้าจอ 11 นิ้ว ความละเอียด 1920x1200 สัดส่วน 16:10 ดูวิดีโอได้เต็มตา
  • แบตเตอรี่ 8000 mAh ใช้งานได้นานกว่ารุ่นอื่น
  • ความจุ 128GB ขยายได้ถึง 1TB ผ่าน microSD
  • มีรุ่น 4G ใช้งานนอกบ้านได้
  • สีตัวเครื่องหลากหลาย (Graphite Gray, Lavender Purple, Mint Green)

ข้อเสีย:

  • RAM 6GB อาจช้ากว่าเมื่อใช้แอปหนักๆ
  • ชิปประมวลผลไม่ระบุชัดเจนในบางแหล่ง อาจไม่แรงเท่ารุ่นอื่น
  • กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP คุณภาพพื้นฐาน

Content Cover

HUAWEI MatePad SE 11"

ข้อดี:

  • รองรับปากกา M-Pencil Lite เหมาะกับการจดหรือวาด
  • หน้าจอ 11 นิ้ว ความละเอียด 1920x1200 คุณภาพดี
  • กล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 8MP ถ่ายภาพคมชัดกว่ารุ่นอื่น
  • แบตเตอรี่ 7700 mAh ใช้งานได้นาน
  • ตัวเครื่องโลหะบางส่วน แข็งแรง ทนทาน
  • ชิป Snapdragon 7 Gen 1 (บางรุ่น) ประสิทธิภาพดี
  • มีรุ่น LTE รองรับซิมการ์ด

ข้อเสีย:

  • ความจุขยายได้แค่ 256GB ผ่าน NM card น้อยกว่ารุ่นอื่น
  • ระบบ HarmonyOS อาจไม่คุ้นเคย ไม่รองรับ Google Services บางแอป
  • ราคา 6,990 บาท อาจสูงกว่า Redmi Pad SE ในสเปคใกล้เคียง

Content Cover

Samsung Galaxy Tab A9+ ตัวเลือกสำหรับงานหนัก

Galaxy Tab A9+ เป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับคนต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาไม่เกิน 10,000 บาท หน้าจอขนาด 11 นิ้วให้ภาพที่คมชัด เหมาะกับการดูวิดีโอหรืออ่านเอกสาร RAM 8GB ช่วยให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ดี ไม่ว่าจะเปิดแอปหลายตัวหรือสลับไปมาระหว่างงาน ความจุ 128GB ก็เพียงพอสำหรับเก็บไฟล์ ภาพ และวิดีโอจำนวนมาก แบตเตอรี่ 7040 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย ราคาอยู่ที่ 8,490-8,990 บาท ซึ่งอาจสูงกว่ารุ่นอื่นในกลุ่มนี้ แต่สเปคที่ได้ก็สมเหตุสมผลกับราคา รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตไว้ทำงานมากกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น การแก้ไขเอกสารหรือจัดการงานออนไลน์ หน้าจอใหญ่ยังช่วยให้มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน โดยเฉพาะถ้าใช้ในการประชุมหรือเรียนออนไลน์ การออกแบบของรุ่นนี้ดูเรียบง่ายแต่ทนทาน วัสดุที่ใช้ให้ความรู้สึกแข็งแรง เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกบ้าน ถ้าความต้องการคือแท็บเล็ตที่เร็วและจัดการงานได้หลากหลาย Galaxy Tab A9+ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในงบนี้

Redmi Pad SE คุ้มค่าที่สุดในราคาเบา

Redmi Pad SE เป็นแท็บเล็ตที่เน้นความคุ้มค่า ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5,990 บาท และสูงสุดไม่เกิน 7,990 บาท หน้าจอ 11 นิ้วให้ประสบการณ์การรับชมที่กว้างขวาง RAM 6GB และความจุ 128GB อาจไม่สูงเท่า Galaxy Tab A9+ แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐาน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรือท่องเว็บ แบตเตอรี่ 8000 mAh ใหญ่กว่ารุ่นอื่นในกลุ่มนี้ ทำให้ใช้งานได้นานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตในราคาย่อมเยาแต่ยังได้สเปคที่ครอบคลุมการใช้งานทั่วไป คุณภาพหน้าจออยู่ในระดับดี สัดส่วน 16:10 ทำให้ดูวิดีโอได้เต็มตา เสียงจากลำโพงที่รองรับ Dolby Atmos ก็ช่วยให้การดูคอนเทนต์มีอรรถรสมากขึ้น การออกแบบของ Redmi Pad SE ค่อนข้างบางและเบา พกพาง่าย วัสดุอาจไม่พรีเมียมเท่ารุ่นราคาสูง แต่ก็ใช้งานได้ดีในระดับราคานี้ ถ้าต้องการแท็บเล็ตที่ราคาไม่แพงแต่ยังได้หน้าจอใหญ่และแบตเตอรี่อึด รุ่นนี้คือคำตอบที่ลงตัว

HUAWEI MatePad SE 11" เหมาะกับการจดและวาด

HUAWEI MatePad SE 11" โดดเด่นด้วยการรองรับปากกา ซึ่งเป็นจุดเด่นที่หายากในแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 10,000 บาท หน้าจอ 11 นิ้ว RAM 6GB และความจุ 128GB ให้สเปคที่สมดุล แบตเตอรี่ 7700 mAh ใช้งานได้นานพอสมควร ราคาอยู่ที่ 6,990 บาท ซึ่งอยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับสองรุ่นก่อนหน้า การรองรับปากกา M-Pencil Lite ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการจดบันทึกหรือวาดภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์หรือการร่างไอเดีย หน้าจอขนาดใหญ่และความละเอียดสูงช่วยให้การเขียนหรือวาดดูชัดเจน ตัวเครื่องทำจากโลหะบางส่วน ทำให้ดูแข็งแรงและมีน้ำหนักที่สมดุล รุ่นนี้ยังรองรับซิมการ์ดในบางเวอร์ชัน ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ถ้าต้องการแท็บเล็ตที่ใช้งานได้หลากหลายและมีปากกาในราคาที่ไม่สูงเกินไป HUAWEI MatePad SE 11" เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS อาจแตกต่างจาก Android ทั่วไป แต่ก็ปรับตัวได้ไม่ยากสำหรับการใช้งานพื้นฐาน

ตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจ

นอกจากสามรุ่นหลักแล้ว ยังมีแท็บเล็ตอื่นที่อยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 10,000 บาท เช่น Lenovo Tab M9 ราคา 5,990 บาท หน้าจอ 9 นิ้ว RAM 4GB ความจุ 64GB เหมาะกับการใช้งานเบาๆ หรือ Xiaomi Pad 6 ราคา 9,990 บาท หน้าจอ 11 นิ้ว RAM 8GB ความจุ 128GB แบตเตอรี่ 8840 mAh ซึ่งให้สเปคสูงแต่ราคาใกล้ขอบงบ รุ่นเหล่านี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน Lenovo Tab M9 เหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดกะทัดรัดและราคาไม่สูง ส่วน Xiaomi Pad 6 เหมาะกับคนที่ต้องการประสิทธิภาพสูงจากชิป Snapdragon 870 การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับความจำเป็น เช่น ถ้าต้องการเล่นเกมหนัก Xiaomi Pad 6 อาจดีกว่า แต่ถ้าต้องการแค่ดูคอนเทนต์ Lenovo Tab M9 ก็เพียงพอ ราคาของแท็บเล็ตอาจเปลี่ยนแปลงตามร้านค้าหรือโปรโมชันออนไลน์ การตรวจสอบราคาล่าสุดจากแหล่งซื้อ เช่น Lazada หรือ Shopee จึงเป็นเรื่องที่ควรทำก่อนตัดสินใจ

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนซื้อ

การเลือกแท็บเล็ตในงบ 10,000 บาทต้องดูที่ความต้องการหลัก เช่น ถ้าต้องการหน้าจอใหญ่ Galaxy Tab A9+ หรือ Redmi Pad SE จะตอบโจทย์ ถ้าต้องการปากกา HUAWEI MatePad SE 11" จะเหมาะกว่า สเปคอย่าง RAM และความจุก็สำคัญ ถ้าต้องการทำงานหนัก RAM 8GB จะดีกว่า 6GB หรือ 4GB แบตเตอรี่ก็เป็นอีกปัจจัย Redmi Pad SE ที่มี 8000 mAh จะใช้งานได้นานกว่ารุ่นอื่น การเชื่อมต่อก็ต้องพิจารณา บางรุ่นรองรับ 4G/LTE ซึ่งเพิ่มความสะดวกถ้าต้องใช้นอกบ้าน ราคาที่ระบุ เช่น 8,490-8,990 บาทสำหรับ Galaxy Tab A9+ หรือ 5,990-7,990 บาทสำหรับ Redmi Pad SE อาจแตกต่างกันไปตามร้านค้า การมองหาโปรโมชันหรือส่วนลดจะช่วยให้ได้แท็บเล็ตในราคาที่ถูกลง ทุกการเลือกซื้อควรดูที่การใช้งานจริงเป็นหลัก เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

ความละเอียดหน้าจอและกล้องของสามรุ่น

Galaxy Tab A9+ มาพร้อมหน้าจอ TFT-LCD ความละเอียด 1920x1200 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP เหมาะสำหรับถ่ายภาพพื้นฐานหรือวิดีโอคอล Redmi Pad SE มีหน้าจอ FHD+ ความละเอียด 1920x1200 พิกเซล กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP คุณภาพใกล้เคียงกัน แต่หน้าจอสัดส่วน 16:10 ให้มุมมองที่กว้างกว่า HUAWEI MatePad SE 11" ใช้หน้าจอ IPS-LCD ความละเอียด 1920x1200 พิกเซล กล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 8MP ซึ่งดีกว่าในแง่ความคมชัด เหมาะกับการถ่ายภาพหรือวิดีโอที่มีรายละเอียดมากขึ้น การเลือกขึ้นอยู่กับความสำคัญของกล้องและหน้าจอ ถ้ากล้องชัดเจนมาก่อน HUAWEI จะเด่นกว่า

ชิปประมวลผลและการใช้งานจริง

Galaxy Tab A9+ ใช้ชิป Snapdragon 695 ซึ่งให้พลังในการประมวลผลที่เร็ว เหมาะกับงานที่ต้องการความลื่นไหล เช่น การตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น Redmi Pad SE ไม่ระบุชิปชัดเจนในบางแหล่ง แต่สเปค RAM 6GB บ่งบอกถึงการใช้งานทั่วไป เช่น การดูคอนเทนต์หรือเล่นเกมเบาๆ HUAWEI MatePad SE 11" บางรุ่นใช้ Snapdragon 7 Gen 1 ซึ่งแรงพอสำหรับงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การวาดภาพด้วยปากกา ชิปที่ต่างกันส่งผลต่อประสิทธิภาพ ถ้าต้องการแท็บเล็ตที่แรงและเร็ว Galaxy Tab A9+ หรือ HUAWEI จะเหมาะกว่า Redmi Pad SE

การขยายความจุและการเชื่อมต่อ

  • Galaxy Tab A9+ รองรับการขยายความจุได้ถึง 1TB ผ่าน microSD และมีรุ่น LTE สำหรับเชื่อมต่อซิม
  • Redmi Pad SE ขยายได้ 1TB เช่นกัน บางรุ่นรองรับ 4G ทำให้ใช้งานนอกบ้านได้ดี
  • HUAWEI MatePad SE 11" ขยายได้ 256GB ผ่าน NM card และมีรุ่น LTE ให้เลือก

การเชื่อมต่อและความจุที่ขยายได้ช่วยให้เก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้ ถ้าต้องการความยืดหยุ่นสูง Galaxy Tab A9+ และ Redmi Pad SE จะได้เปรียบ HUAWEI ในแง่นี้

รายละเอียดเพิ่มเติมและสีตัวเครื่อง

  • Galaxy Tab A9+ มีสี Silver และ Navy ราคา 8,990 บาท วางขายที่ Samsung Shop
  • Redmi Pad SE มีสี Graphite Gray, Lavender Purple, Mint Green ราคา 6,999 บาท ขายที่ Mi Shop
  • Lenovo Tab M9 มีสี Arctic Grey ราคา 5,990 บาท ขายที่ Lenovo by Blue Shop

ถ้าชอบตัวเลือกสีเยอะ Redmi Pad SE จะน่าสนใจกว่า

ความคิดเห็น